ชัยภูมิ – หลังญาติๆ พาไปบำบัดมาหลายครั้งไม่ยอมเลิก ผู้เป็นพ่อปู่ และญาติๆ สุดทนแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยควบคุมตัวลูกสะใภ้ทาสยาบ้า หลังเคยพาไปบำบัดมาแล้ว 2 ครั้ง กลับออกมาก็ยังไม่ยอมเลิก ยิ่งหนักไม่ยอมกินยาที่แพทย์ให้มาต่อเนื่อง จนเกิดอาการคลั่งอาละวาดทั้งทำร้ายข้าวของเสียหาย และคนข้างบ้านไปทั่ว ฝ่ายสามีสุดทนหนีไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดหายเงียบ พ่อปู่ต้องตัดสินใจแจ้ง จนท.มาช่วยจับตัวส่งบำบัดอีกครั้งรอบที่ 3 หวังว่าครั้งนี้ขอให้ตั้งใจเลิก เมื่อหายแล้วจะกลับมาเป็นพลเมืองดีของสังคมให้ครอบครัวต่อไปให้ได้ ด้านนักวิชาการเผยอยู่ที่กำลังใจและโอกาสกับเธออีกครั้งด้วย!
เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 8 ธ.ค.63 ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัย อบต.นาเสียว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ กว่า 4 คน ได้รับแจ้งให้ไปช่วยควบคุมตัวหญิงคลุ้มคลั่งจาการติดยาบ้า ชื่อนางบี (นามสมมุติ)อายุ 38 ปี ชาวบ้านนาสีนวล ต.นาเสียว อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งมีอาการขัดขืนและพยายามจะวิ่งหนีทั้งญาติและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เพื่อเร่งช่วยกันนำตัวไปรักษาบำบัดตัวต่อที่โรงพยาบาลชัยภูมิ
ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ นางบี มีอาการคุ้มคลั่งไม่ยอมหลับยอมนอน ทั้งขว้างปาสิ่งของ ทุบทำลายสิ่งของภายในบ้าน จนผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านด้วยกันทั้งหมดทั้งพ่อปู่ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นพ่อสามีนางบี ไม่ได้หลับได้นอนทั้งคืน รวมทั้งผู้ที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน ก็ต่างไม่เป็นอันกินอันนอนตามมาด้วยเช่นกัน
“ต้องหนีไปนอนที่อื่นชั่วคราว หวั่นนางบีฯ วัย 38 ปี หญิงคลั่งยารายนี้ จะทำร้าย หรือเผาบ้านทำให้ทรัพย์สินอื่นๆเสียหายตามมาได้อีกเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยนำตัวไปรักษาและบำบัดจากอาการคลั่งสติไม่สมประกอบจากฤทธิ์ยาบ้า ซึ่งตอนแรกทั้งญาติ ชาวบ้านที่ทราบข่าว ได้พยายามช่วยกันเข้าชวนคุยกับนางบี และพูดหว่านล้อมชวนให้ไปรับยาที่โรงพยาบาลชัยภูมิ นานกว่า 30 นาที แต่ก็ไม่สำเร็จ จนน้าชายที่ทราบข่าว จึงรีบเดินทางมายังบ้านที่เกิดเหตุร่วมกับ จนท. และไม่รีรอได้รีบพากันเข้าไปควบคุมตัวนางบีฯทันทีและมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย อบต.นาเสียว เข้าไปจับและอุ้มตัวออกมาขึ้นรถหน่วยกู้ชีพกู้ภัย พาไปรักษาตัวที่ รพ.ชัยภูมิ ได้เป็นผลสำเร็จ”
โดยผู้เป็นน้าสาวของนางบีฯ กล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีมาแล้ว นางบี ได้ติดยาบ้าจนเกิดอาการคุ้มคลั่งจนเสียสติ ทางสามีและญาติ ได้นำตัวไปบำบัดและรักษาตัวมาแล้ว เมื่อหายกลับบ้าน แต่ก็ไม่กินทั้งยารักษาตัวเองให้ต่อเนื่องและยังกลับไปเสพยาบ้าซ้ำอีก จนเกิดอาการคลั่งเสียสติ จึงนำตัวไปบำบัดและรักษาตัวมาแล้ว 2 ครั้งที่ผ่านมา ที่ครั้งนี้ก็ยังวนกลับมามีพฤติการณ์ไปแอบเสพยาบ้ามาซ้ำอีก ทั้งมีอาการรุนแรงขู่จะเผาบ้านอีก
รวมทั้งด้านผู้เป็นพ่อปู่ หรือพ่อสามี วัย 70 ปี บอกอีกว่า หลังจากนำตัวนางบีฯ ไปบำบัดและรักษาตัวมาแล้ว 2 ครั้ง กลับมาบ้านไม่กินยาต่อเนื่อง ซึ่งลูกชายตนเองซึ่งเป็นสามีจึงเกิดอาการเบื่อหน่าย จึงหนีออกจากบ้านไม่ทราบว่าไปอยู่ไหนมาหลายวันแล้ว และครั้งนี้ทราบว่านางบีได้แอบเสพยาบ้ามาอีก จนเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นอีก ไม่ยอมหลับไม่นอน เดินเผ่นพ่านในบ้านทั้งคืนทั้งวันไปทั่ว และเดินชงกาแฟตลอดทั้งคืนจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง พูดจาคนเดียว วกวนทั้งคืนทั้งวันเหมือนคนเสียสติ จึงอยากให้ จนท.นำตัวไปบำบัดให้หายขาดได้กลับคืนมาเป็นคนดีของสังคมครอบครัวได้เสียที ครั้งนี้ก็อยากให้กำลังใจขอให้เป็นโอกาสสุดท้าย
ขณะที่นายเอกรัต ครองสมบัติ นักวิชาการสาธารณสุข รพ.สต.นาเสียว กล่าวว่า จากการสอบถามและสอบประวัติทราบว่าคนป่วยหลายนี้ หลังจากเคยเข้าบำบัดและรักษาตัวแล้ว กลับบ้านไม่กินยารักษาตัวต่อเนื่อง และยังแอบไปเสพยาซ้ำอีก จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งครั้งนี้ขึ้นอีก ซึ่งจะได้เร่งนำตัวเข้าสู่ระบบบำบัดให้หายขาดอีกครั้งต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องยากหากสังคมแวดล้อมเมื่อเลิกได้แล้ว แต่ก็ไม่ควรหันไปเสพยาพวกนี้อีกเลยด้วย อยู่ที่ใจของแต่ละบุคคลว่าจะยอมเลิกได้หรือไม่ในแต่ละครั้งที่เข้าสู่ขบวนการบำบัดด้วย
