เชียงราย-คนไทยที่ ตกค้าง ใน จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา เดินทางกลับสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา อ.แม่สาย แห่งที่ 2 อีก 26 คนในวันนี้ เผยในเมืองท่าขี้เหล็ก คนไทยอยู่ลำบากออกไปไหนไม่ได้ ต้องเร่งกลับ ในขณะที่การค้าข้ามแดนยังคึกคัก
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ธ.ค.63 คนไทยที่ลงทะเบียนผ่านกระทรวงการต่างประเทศและติดค้าง อยู่ จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา ได้เดินทางผ่านสะพานมิตรไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ผ่านการประสานงาน ของ พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง (ผบ. กกล.ผาเมือง) และ พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จ.เชียงราย และ หน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา หรือ TBC (พื้นที่ 1) อ.แม่สาย และ กระทรวงการต่างประเทศ วันนี้เดินทางเข้ามา 26 คน แยกเป็นชาย 17 คน (เด็กนักเรียน 1 คน พระสงฆ์ 1 รูป ) หญิงสาว 7 คน และเด็กเล็ก 2 คน โดยมีการสอบสวนเบื้องต้น แล้วนำตัวไปกักกันในสถานกักกันของรัฐ หรือ Lsq โรงแรมเวียงอินทร์รีเวอร์ไซด์ อ.เมือง จ.เชียงราย
ทั้งนี้ระหว่างตรวจค้นสัมภาระ มีการค้นพบ โทรศัพท์มือถือ และ บัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม ในกระเป๋าอย่างละ 7-8 ชิ้น ต่อมา นายปอน ชาว จ.สงขลา ที่เดินทางมาในกลุ่มนี้ อ้างว่า เนื่องจากตนตกค้างในที่พักที่เรียกที่ตึกเหลือง จ.ท่าขี้เหล็ก แล้วพรรคพวกกลับมาก่อน ตนมาหลังสุด จึงขนเอาของเพื่อนๆมาด้วย ทั้งนี้คนไทยที่ตกค้างในเมืองท่าขี้เหล็ก ส่วนมากอยากกลับไทย เพราะเริ่มอยู่อาศัยลำบาก เพราะไปไหนไม่ได้ แล้วกลัวถูกจับด้วย การให้มาลงชื่อกลับของรัฐบาลไทยครั้งนี้ถือว่าดีมาก จะลดการลักลอบข้ามแดนลงได้
ทั้งนี้ จากการสอบถามคนขับรถสินค้าในท่าขี้เหล็ก เช่น นายตี๋ กับ นายหม่อง ซึ่งจะมาขับรถจากไทยไปส่งสินค้าในเมืองท่าขี้เหล็กทุกวัน ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 200 บาท แต่หากเป็นเจ้าของรถได้คันละ 500 บาท กล่าวว่า ช่วงนี้ทางเมียนมา สั่งซื้อสินค้าอุปโภคมากขึ้น ในตัวเมืองประชาชนชาวเมียนมา ไทใหญ่ ฯลฯ ยังออกมาประกอบอาชีพและหาซื้อสินค้าปกติ แต่สวมหน้ากากอนามัยทุกคน โดยรถสินค้าเข้าไปส่งสินค้า เป็นรถตู้วันละกว่า 300-500 เที่ยวต่อวัน นอกจากนี้ยังมีรถบรรทุกปูนซีเมนต์ รถบรรทุกน้ำมัน ด้วย
