นครพนม – จากกรณีนายสกุล ศรีรักษา อายุ 49 ปี ส.อบต.หมู่ 1 บ้านคำนกกก ต.หนองแวง อ.บ้านแพง ผู้ถูกนางมาลี วรสวัสดิ์ ฉายาเจ๊ปากแดง อายุ 40 ปี พร้อมสามีและลูกสมุนยกพวกรุมกระทืบ บริเวณงานศพบ้านดอนสะฝาง หมู่ 5 ต.โพนทอง อ.บ้านแพง โดยใช้ด้ามปืนพกสั้นตบที่หางคิ้วซ้ายแตกเย็บ 3 เข็ม เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจจังหวัดนครพนม ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ เข้าไปนำตัวสองสามีภรรยาและนายอารยะหรือเตี้ยลูกน้อง ที่นายสกุลกล่าวหาว่าร่วมกันรุมสกรัมจนสะบักสะบอม สมสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่ สภ.บ้านแพง โดยทั้งเจ๊ปากแดงและสามีปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหา ”ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ,ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด,ร่วมกันทวงหนี้โดยการข่มขู่ใช้ความรุนแรง,ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วน” พร้อมคัดค้านการประกันตัว ภายหลังศาลพิจารณาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ในวงเงินคนละ 50,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
วันที่ 14 ธันวาคม 2563 เวลา 11.30 น. นายสกุลพร้อมลูกหนี้อีก 20 คน ได้เดินทางไปร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านแพง โดยถ่ายสำเนาบัตรประชาชนและสมุดพกที่ใช้บันทึกการชำระหนี้ของเจ๊ปากแดง ยื่นต่อนายชยณัฐ ประทุมมาตย์ ปลัดอาวุโส เพื่อเป็นหลักฐานว่าเจ๊ปากแดงไม่ใช่แม่ค้าขายปลาเผาตามที่กล่าวอ้าง และให้เป็นคนกลางประสานกับเจ้าหน้าที่ในการสอบสวน ซึ่งปลัดอาวุโสได้รับปากจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังห่วงในความปลอดภัยของลูกหนี้ แต่เรื่องการให้สัมภาษณ์ควรเป็นหน้าที่ของนายอำเภอเพียงผู้เดียว
จากนั้นนายสกุลก็นำเอกสารลูกหนี้อีกชุดไปยื่นต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อยืนยันว่าบุคคลทั้ง 20 ราย เป็นลูกหนี้ของเจ๊ปากแดง โดยพนักงานสอบสวนจะเรียกบรรดาลูกหนี้ทั้งหมดมาสอบปากคำต่อไป
นอกจากนี้นายสกุลยังขอสำเนาการให้ปากคำของตน รวม 3 ครั้ง คือวันที่ 8-910 ธันวาคม 2563 เพื่อนำไปประกอบในเอกสารของทนายที่ นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย เป็นผู้จัดหาให้ว่าความในคดีนี้
