สงขลา – สะเดา สาวโพสต์โซเชียลอุบัติเหตุเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มทับรถ สามีบาดเจ็บสาหัสกระดูกต้นคอหัก และมีเลือดออกที่สมอง ส่วนลูกสาวคนเล็กได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้ออักเสบ ผ่านเดือนกว่ายังไร้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลหรือแสดงความรับผิดชอบ
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ย. เวลา 10.30 น. ร.ต.อ.มนชัย ทนโกจารย์ ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเหตุรถยนต์โตโยต้ารุ่นยาริช สีดำ ทะเบียน ขษ-4668 สงขลา เกิดอุบัติเหตุเสาไฟฟ้าล้มทับใส่หลังคารถจนได้รับความเสียหาย บริเวณช่วงทางโค้งก่อนถึงร้านอาหารน้ำเคียงดิน ถนนสาย สงขลา –ระโนด ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ติดอยู่ภายในรถและพลเมืองดีช่วยเหลือนำออกมาจากซากรถยนต์
เบื้องต้นทราบชื่อ นายอนุชาติ บุญมา อายุ 36 ปี ได้รับบาดเจ็บช่วงท้ายทอย อีกรายทราบชื่อ ด.ญ.นิชนิภา บุญมา อายุ 9 ขวบ ได้รับบาดเจ็บบริเวณใต้ริมฝีปาก ซึ่งทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน อยู่บ้านเลขที่ 2/16 หมู่ 2 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา จากนั้นพลเมืองดีได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลาเพื่อรักษาต่อ ก่อนจะมีการประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสงขลา เร่งดำเนินการเคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้าออกจากถนน เนื่องจากมีรถติดสะสมยาวนับสิบกิโลเมตร
ต่อมาได้มีเฟซบุ๊คชื่อ Nid Nittaya ได้โพสต์ภาพสามีของตนเองซึ่งกำลังนอนรักษาตัวหลังได้รับบาดเจ็บจากเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มทับใส่หลังคา พร้อมระบุข้อความว่า ไม่เป็นข่าวสักที ไม่ไวขึ้นเลย !!! ฝากช่วยแชร์หน่อยนะคะ อุบัติเหตุเสาไฟฟ้าแรงสูง ล้มทับรถเก๋ง เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ที่ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ผ่านมาแล้ว 45 วัน ยังไม่ได้รับการเยียวยา จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดอาการบาดเจ็บและเหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ข่าวเสนอออกไป
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งได้พบกับ น.ส.นิตยา แย้มอ้น อายุ 39 ปี ภรรยาของนาย อนุชาติ บุญมา ได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่โพสต์ภาพสามีกำลังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้น เนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา สามีและลูกสาวคนเล็กได้เจอเหตุการณ์เสาไฟฟ้าล้มทับใส่หลังคารถยนต์ ขณะออกไปซื้อของกินในตัวเมืองสงขลาจนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่
เบื้องต้นลูกสาวคนเล็กได้รับบาดเจ็บ กล้ามเนื้ออักเสบและมีบาดแผลตามแขนขา ส่วนสามีได้รับบาดเจ็บกระดูกต้นคอหักและมีเลือดออกที่สมอง จากนั้นตนได้ทำเรื่องขอย้ายตัวสามีจากโรงพยาบาลสงขลา เพื่อไปรักษาอาการบาดเจ็บเฉพาะทางที่โรงพยาบาลศิครินทร์หาดใหญ่ โดยการดึงยืดกระดูกคอ และรักษาต่อด้วยการเข้าเฝือกครึ่งตัว ซึ่งได้นอนรักษาตัวเป็นเวลา 35 วัน
ซึ่งช่วงระยะเวลาที่นอนรักษาตัว มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสงขลาได้เข้ามาเยี่ยมและแสดงความรับผิดชอบ โดยให้ตนนำเอกสารค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นและค่ากินในแต่ละวันไปยื่นเบิกเงินได้ที่สำนักงานการไฟฟ้า ก่อนจะหายเงียบไม่มีการติดต่อกลับมาอย่างใด
จนกระทั่งหมอได้อนุญาตให้สามีกลับบ้านได้ และตนได้นำเอกสารไปยื่นเบิกเงินที่สำนักงานตามที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสงขลาแนะนำ จนวันนี้รวมทั้งหมด 45 วันยังไม่มีการติดต่อกลับเช่นกัน ทำให้สูญเสียรายได้และต้องเสียค่าต่างๆอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งนี้สามีตนเองยังไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ขาดรายได้ในการเลี้ยงดูครอบครัวตนจึงอยากวอนหน่วยงานการไฟฟ้า ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: