นครศรีธรรมราช : นายชาตรี เพชรแก้ว ผู้สมัคร ส.อบจ.หัวไทร และชาวบ้าน ผวาหนัก หลังร้องซื้อเสียงในพื้นที่ แต่ถูกข่มขู่ ให้ยุติและถอนแจ้งความ จนไม่กล้าให้ปากคำ
วันที่ 22 ธันวาคม 2563 ความคืบหน้า ชาวบ้าน 5 คน ใน ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช นำเงินจำนวน 3,200 บาท ที่ได้จาก นายจรัญ ไม่ทราบนามสกุล ตัวแทนผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เขต 1 อ.หัวไทร ไปมอบให้ นายไพโรจน์ เอียดแก้ว กำนัน ต.เกาะเพชร เพื่อให้นำไปคืนให้ผู้สมัครหมายเลขดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นขณะเลือกตั้ง นายก และ ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 ซึ่งกำนันไพโรจน์ ได้นำเงินจำนวน 3,200 บาท ไปมอบให้ผู้สมัคร ส.อบจ.หัวไทร เขต 1 เพื่อแจ้งความตำรวจ สภ.หัวไทร ดำเนินคดี
ล่าสุด นายชาตรี เพชรแก้ว ผู้สมัคร ส.อบจ.หัวไทร เขต 1 อ.หัวไทร ได้เข้าร้องต่อสื่อมวลชน หลังโทรศัพท์พูดคุยหารือกับ พล.ท.ธีร์ณฉัฏฐ์ จินดาเงิน หัวหน้าทีมคนรักเมืองคอน ผู้สมัครนายก อบจ.นครศรีธรรมราช หมายเลข 6 กับทีมฝ่ายกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ถ.พัฒนาการคูขวาง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ขณะที่ กกต.นครศรีธรรมราช แจ้งให้นายชาตรี นำหลักฐานเพิ่มเติมไปมอบให้ กกต. โดยเฉพาะรายชื่อชาวบ้านทั้ง 5 คน
ข่าวน่าสนใจ:
นายชาตรี เพชรแก้ว เปิดเผยว่า ในพื้นที่มีการซื้อเสียงกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะช่วงใกล้ค่ำ วันที่ 19 ธ.ค.63 กระทั่งเช้าวันที่ 20 ธ.ค.63 (วันเลือกตั้ง) มีชาวบ้าน 5 คน ติดต่อไปยัง นายไพโรจน์ เอียดแก้ว กำนัน ต.เกาะเพชร ว่า จะขอคืนเงินที่หัวคะแนนของเบอร์ 2 ไปขอซื้อเสียงหัวละ 200 บาท เพื่อให้ลงคะแนนให้เบอร์ 2 ทั้งนายก และ ส.อบจ. แต่ชาวบ้านไม่อยากขายสิทธิ์ขายเสียง จึงขอฝากเงินจำนวน 3,200 บาท คืนผ่านทางกำนันไพโรจน์ และได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบให้ตนเองในฐานะเป็นผู้สมัครในพื้นที่ และเป็นผู้เสียหายโดยตรง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หัวไทร พร้อมแจ้งรายชื่อชาวบ้านที่นำเงินมาคืนทั้ง 5 คน ต่อมา พนักงานสอบสวนได้เรียกชาวบ้านทั้ง 5 คน มาสอบสวนปากคำ แต่ชาวบ้านกลับโดนข่มขู่ กดดันอย่างหนัก จนหวาดหลัวไม่กล้าเดินทางไปให้ปากคำ
ขณะที่เพื่อนบ้านของตนเอง มาแจ้งว่า มีผู้กว้างขวางคนหนึ่งใน อ.ปากพนัง ฝากมาบอกให้ยุติการเคลื่อนไหว และให้ไปถอนแจ้งความเพื่อให้เรื่องยุติ หากไม่หยุด ผู้กว้างขวางคนดังกล่าวจะเข้ามายุติเรื่องด้วยตัวเอง จึงรู้ทันทีว่าชีวิตไม่ปลอดภัยแน่ และเกิดความหวาดกลัวอย่างหนัก จึงโทรศัพท์ปรึกษาทีมคนรักเมืองนครของ พล.ท.ธีร์ณฉัฏฐ์ จินดาเงิน ซึ่งยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องร่วมกันต่อสู้จนถึงที่สุด
นายชาตรี เพชรแก้ว กล่าวต่อว่า ทีมคู่แข่งพร้อมผู้กว้างขวาง ส่งคน 4-5 คน นัดให้ไปพบเพื่อเจรจาหวังข่มขู่ ในวันนี้ (22 ธ.ค.63) เวลา 10.00 น. แต่ตนเองไม่ไปตามนัด แต่มาแถลงข่าวแทน เพื่อให้สังคมได้รับรู้ และให้สื่อมวลชนช่วย ขอยืนยันว่าทุกอย่างที่พูดมาคือความจริง หลักฐานชัดเจน ผู้แข่งขันมีเพียง 2 คน
อย่างไรก็ตาม แม้โดนข่มขู่ แต่เกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียว ขอทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ด้วย
“ยืนยันจะต่อสู้จนถึงที่สุด ผมมั่นใจในพยานหลักฐาน แม้จะอ้างว่าคนที่ซื้อเสียงไม่ได้ซื้อให้เบอร์ 2 แต่ซื้อเบอร์อื่น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะในพื้นที่ มีผู้สมัคร ส.อบจ. 3 คน แต่หมายเลข 1 ถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว เพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ในพื้นที่จึงเหลือหมายเลข 2 และตนเองหมายเลข 3 แค่ 2 คนเท่านั้น” นายชาตรี เพชรแก้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้า
ด้านนักกฎหมาย ระบุว่า ในทางปฏิบัติ เมื่อตำรวจ และ กกต. ได้รับแจ้ง จะต้องรีบสอบปากคำผู้แจ้งและพยานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะชาวบ้านที่นำเงินมาคืนทั้ง 5 คน พร้อมนำเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานทันที ไม่ควรปล่อยให้ล่าช้า เพราะตอนนี้ชาวบ้านถูกข่มคู่คุกคาม จนไม่กล้าเข้าให้ปากคำ ซึ่งจะส่งผลถึงการให้ปากคำที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริงไปจากเดิม ก็เป็นไปได้
ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย นายชาตรี เพชรแก้ว ได้เดินทางเข้าพบ จนท.กลุ่มงานสือสวนสอบสวนและพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช ในศูนย์ราชการนาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้าให้ข้อมูลรายละเอียดการร้องเรียนการกระทำความผิดดังกล่าว ในฐานะผู้เสียหาย โดย จนท.ใช้เวลานานกว่า 3 ชม. สืบสวนสอบสวน ภายหลังเสร็จสิ้น นายชาตรี เพชรแก้ว เดินลงมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เนื่องจากรู้สึกสบายใจขึ้น ที่ จนท.กระตือรือร้นและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี พร้อมกับมั่นใจและหวังว่า กกต.จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว และเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม
อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ลิ้งก์ด้านล่าง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: