สระแก้ว – เจ้าหน้าที่จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทะลักชายแดน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว หลังนายกสั่งการออกกวาดล้างสกัดโควิด โดยสนธิกำลังจับกุมได้ 52 คน บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์สถานการณ์ในช่วงเย็นวานนี้ที่ผ่านมา ให้มีการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวอย่างเข้มงวด โดย พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมเกียรติ ศิริสมบูรณ์ รอง ผบ.ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา ร่วมบูรณาการ ออกดำเนินการตรวจสอบแนวชายแดนให้เข้มข้นยิ่งขึ้น กระทั่งช่วงเช้ามืดวันนี้ (23 ธ.ค.63) เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา, กอ.รมน.จว.ส.ก, ชุดชรต.121 และฝ่ายปกครองพื้นที่ อ.โคกสูง ร่วมกันเข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าว ร่วมกับ นายประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโคกสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสูง, ตม.สระแก้ว , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย ฉก.ตชด 4, ชปข.124, หลังจากได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง ว่ามีแรงงานต่างด้าว ชาวกัมพูชา ตั้งแคมป์พักอาศัย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติริมชายแดนไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ หลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ พบแรงงานชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาช่องทางธรรมชาติ เพื่อเข้ามาทำงานในพื้นที่ อ.โคกสูง โดยเข้ามาทำงานและพักอาศัยในป่าสงวนแห่งชาติ ท้าย หมู่บ้านหนองหว้า หมู่ 14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งจากการตรวจค้นพบแรงงานทั้งชายและหญิง พร้อมเด็ก รวมจำนวน 52 คน ประกอบด้วย ชาย 21 คน หญิง 24 คนและเด็ก 7 คน ทั้งหมดสัญชาติกัมพูชา พร้อมได้จดรายชื่อและผลวัดอุณหภูมิโดยเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอำเภอโคกสูง ร่วมทำการตรวจคัดกรอง ไม่พบแรงงานชาวกัมพูชา อุณหภูมิสูงเกินเกณฑ์ปกติ
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามแรงงานทั้งหมด ทราบว่า มาจากหมู่บ้านเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ยอมรับสารภาพว่า ได้เดินทางเข้ามาทางธรรมชาติ และเข้ามาพักอาศัยที่ป่าสงวนแห่งชาติท้ายหมู่บ้านดังกล่าว และได้ติดต่อชาวกัมพูชาที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันให้เข้ามาพักและทำงานในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีหัวหน้ากลุ่มคนงานชาวกัมพูชาซึ่งแต่งตั้งกันขึ้นเอง มาเป็นผู้เพื่อจัดแบ่งให้ออกทำงานให้กับคนไทย โดยมีค่าแรงต่อวัน วันละ 200-300 ต่อคน เป็นแรงงานที่ไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปทำงานเกษตรกรรมในพื้นที่ อ.โคกสูง และ อำเภอใกล้เคียง ซึ่งทางอำเภอและ ฉก.ตาพระยา จะได้ขยายผลหาคนไทยที่เกี่ยวข้องในการนำแรงงานไปทำงานต่อไป ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมชาวกัมพูชาต่อเนื่อง โดยภายหลังได้ทำการบันทึกประวัติบุคคลและควบคุมตัวผู้ต้องหานำตัวไปส่งให้ ตม.จว.สระแก้ว เพื่อผลักดันออกนอกประเทศในช่องทางอนุโลมบ้านโอบายเจือน ทางจุดตรวจ จต.38 บ้านโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ต่อไป
—————————–
