ฉะเชิงเทรา – ทุ่งเขียวขจี ติดตลาดได้ภายในช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือน แหล่งท่องเที่ยวเชิงอัตวิถีชุมชนบ้านคลองแขวงกลั่น บนความหลากหลายในท้องทุ่งนาตามรอยศาสตร์พระราชา ที่พลิกบ่อเลี้ยงปลาเป็นสวนน้ำแบบเขาดิน 2 พร้อมบรรยากาศในความเป็นชุมชนด้านเกษตรกรรม นำธรรมชาติมาพัฒนาร่วมสมัยย้อนรอยในความเป็นไทยให้โลกได้เห็น
วันที่ 4 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณแหล่งเรียนรู้ชุมชนใจกลางหมู่บ้านคลองแขวงกลั่น ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน “โอทอปนวัตวิถีไทย” ที่มีการรวบรวมความเป็นธรรมชาติและความหลากหลายในวิถีชีวิตของชุมชนคนพื้นถิ่นดั้งเดิมแบบชาวบ้านชนบท มาพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบผสมผสานร่วมสมัยที่น่าชื่นชม
โดยมีการประดับประดามุงหลังคาเพดานกันแดดภายในบริเวณงานด้วยร่มสีสวยสดลอยฟ้า และพัฒนาจากบ่อเลี้ยงปลาให้กลายเป็นสวนน้ำ มีเรือพายลอยลำไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นหัดพายแจวกันได้ฟรีๆ ตามแบบวิถีชุมชนริมคลอง และย้อยรอยรำลึกถึงสวนน้ำในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสวนสัตว์ดุสิต (เขาดิน) ที่มีการนำเอาจักรยานเป็ดน้ำมาลอยลำทิ้งไว้ให้ผู้คนได้ลงปั่นพายเล่น
สลับกับการแสดงบนเวทีบันเทิงสร้างความสนุกสนานตามประสาพื้นบ้าน และชมการยกยอหาปลา จับกบตามวิถีความเป็นอยู่จริงของคนในชุมชน โดยที่นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าพักผ่อนรอนแรมค้างคืนในกระท่อมลอมฟาง บนเส้นทางเดินผ่านธรรมชาติด้วยสะพานไม้ไผ่เชื่อมลงสู่ท้องทุ่งนาสัมผัสกับบรรยากาศทุ่งรวงข้าวอันเขียวขจีที่บรรดานักเซลฟี่ต่างชื่นชอบ
จากการสอบถาม นายสันต์ เกษมสุข อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บางเตย กล่าวว่า แนวคิดในการพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตามแบบวิถีชุมชนคนบางเตยนั้น สืบเนื่องมาจากเดิมหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมและเป็นสถานที่สำหรับศึกษาดูงานตามรอยศาสตร์พระราชาอยู่แล้ว จากนั้นทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจึงได้เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสมที่จะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว
จึงได้นำเอาโครงการโอทอปนวัตวิถีมารวมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยสถานที่แห่งนี้มีภูมิทัศน์ที่เหมาะสมสามารถที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ หลังจากเปิดงานมาได้ประมาณ 1 เดือน หรือสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 5 แล้วนั้น กลับพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยวโดยมีประชาชนจำนวนมากพากันเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ช็อป แชท ชิม ซื้อสินค้าของฝากกลับบ้าน
จุดเด่นของที่นี่ คือ การนำเอาความเป็นธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว มาพัฒนาร่วมสมัยและย้อนยุคไปด้วยกัน เนื่องจากจะเห็นว่าในสมัยนี้คนส่วนใหญ่มักจะชอบธรรมชาติมากกว่าชุมชนเมือง โดยใช้แหล่งน้ำ ผืนนาความเป็นธรรมชาติที่มีอยู่มาผสมผสานกันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
สำหรับสินค้าที่นำมาวางขายในงานนี้ เป็นสินค้าขึ้นชื่อของชุมชน คือ หอยจ้อปลา และขนมพื้นเมืองที่สูญหายไปแล้วตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เช่น ข้าวมัน ข้าวต้มมัด ขนมเทียน น้ำสมุนไพรหลากหลายชนิด และยังมีขนมชั้นติดแอร์ ซึ่งเป็นขนมชั้นขึ้นชื่อของชาวตำบลบางเตยและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเรื่อยๆ ในวันทำงานปกติที่ไม่ใช่วันเสาร์-อาทิตย์ ก็ยังมีคนมา เข้ามานั่งถ่ายภาพบ้าง มาแจวเรือ พายเรือบ้าง มายกยอดูปลามาดูธรรมชาติกันบ้าง นายสันต์ กล่าว
ด้าน น.ส.กุสุมา ปัญญี นักวิชาการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชน อ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ตรงนี้ ด้วยภูมิประเทศและสภาพหมู่บ้านที่มีท้องนาและใกล้กับสถานีรถไฟบ้านคลองแขวงกลั่น เดินทางไปมาสะดวก ตลอดจนผู้นำและประชาชนในหมู่บ้านนั้นยังให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการต่างๆ ที่ทางราชการเคยให้การสนับสนุนมา
ทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่เป็นสถานที่สำหรับศึกษาดูงานตามศาสตร์พระราชา เกี่ยวกับเรื่องของหมู่บ้านเศรษฐกิจพอพียงด้วย เช่น มีการงมแก๊ส มีการทำน้ำส้มควันไม้ มีการสาธิตเกี่ยวกับเรื่องศาสตร์พระราชาที่มีการนำมาใช้ในหมู่บ้านอย่างแท้จริง จึงได้เห็นถึงความพร้อมของหมู่บ้าน และอยากให้หมู่บ้านแห่งนี้เข้ามาร่วมอยู่ในโครงการชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถีด้วย น.ส.กุสุมา กล่าว
