วุ่นทั้งเมือง ทั้งตำรวจ กู้ภัย ไล่ตามจับคนร้ายขโมยทองคำ ที่แท้กุเรื่องโกหก กลัวแฟนและพ่อต่อว่า หลังเอาทองไปขายใช้หนี้พนันบอลออนไลน์ ขอโทษตำรวจและสังคมที่ก่อเรื่อง
เวลา 15.00 น. วันที่ 3 มกราคม 2564 สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ได้รับแจ้งจากมีคนร้ายลักทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเหลี่ยมทอง 1 องค์ บริเวณถนนหลังขนส่งจังหวัดตราด ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตราด ชุดสืบสวน สภ.เมืองตราด และกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด เดินทางไปที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้พบนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี พักอาศัยอยู่ในตำบลหนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด นั่งอยู่ท้ายรถกระบะหมายเลขทะเบียน บจ 9542 ตราด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นของรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ทราบว่า คนร้ายเป็นชายรูปร่างอ้วน สวมเสื้อสีชมพู ขี่รถจักรยานยนต์ จำเลขทะเบียนไม่ได้ ขี่รถหลบหนีไปทางไหนไม่รู้ โดยอ้างว่าถูกป้ายยา
จากนั้น พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองตราด พ.ต.ท.ประยูร คำภากุล สวป.สภ.เมืองตราด เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนที่จะนำตัวนายเอ ไปสอบสวนที่สภ.เมืองตราดต่อ ขณะที่ตำรวจและกู้ภัย ได้ออกตามหาคนร้ายตามที่ได้รับแจ้งทั่วเมืองตราด จากนั้นไม่นานได้ข้อมูลใหม่ว่าคนร้ายสวมเสื้อคลุมสีดำ ทำให้ตำรวจต้องเรียกตรวจผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 ราย ที่สวมเสื้อสีดำ แต่ก็ไม่พบอะไรตามที่แจ้ง
หลังจากสอบสวนนาน 1 ชั่วโมง นายเอ ได้ไม่นาน ก็ยอมรับว่า ทองที่หายนั้น นำไปขายจำนวน 20,000 บาท เพื่อนำมาใช้หนี้พนันบอลออนไลน์ ด้วยความกลัวที่พ่อและแฟนสาวจะต่อว่า จึงได้สร้างเรื่องโกหกว่าถูกคนร้ายขโมยทองไป ก่อนที่นายเอ จะขอโทษตำรวจและสังคมที่สร้างเรื่องโกหกขึ้นมา
ขณะที่ พ.ต.อ.นาวิน กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่ามีความผิดฐานแจ้งความเท็จ แต่นายเอสำนึกผิดแล้วและสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง จึงได้ตักเตือนนายเอ ว่าอยากกระทำเช่นนี้ หากดำเนินคดีไปแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์กับสังคม พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการแจ้งเหตุ หากมีการแจ้งเหตุเท็จ หากมีเรื่องมีราวขึ้นมาแล้ว จะทำให้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่วข้องทุกฝ่ายรวมถึงสังคมเดือดร้อนตามไปด้วย
