สุราษฎร์ธานี-เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีเดินหน้าทำความสะอาดตลาดและพ่นยาฆ่าเชื้อกันโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว
สถานการณ์โควิด-19 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุด พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 1 ราย โดยเป็นหญิง อายุ 26 ปีอยู่ในครอบครัวเดียวกับหญิงอายุ 50 ปีที่มาจาก จ.สมุทรสาครทำให้แพร่เชื้อคนในครอบครัวและเครือญาติถึง 10 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ของ จ.สุราษฎร์ธานีทั้งหมด 11 ราย รักษาหายแล้ว 1 ราย คือผู้ป่วยรายแรกเป็นชายอายุ 53 ปีอาชีพขับรถส่งกุ้งไปจ.สมุทรสาครเมื่อกลับมาแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ไปรับตัวทันที
ขณะที่นายธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี นำเจ้าหน้าที่ร่วมกับจิตอาสาทหารบกค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี ทำความสะอาด พ่นยาฆ่าเชื้อตลาดกอบกาญจน์นฤมิต หรือตลาดแม่ครูซึ่งเป็นตลาดเช้าที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากอยู่ห่างจากบ้านผู้ติดเชื้อประมาณ 4-5 ซอย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้
นายธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี กล่าวว่ามั่นใจตลาดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีปลอดภัยทุกตลาด ขอให้ประชาชนมาจับจ่ายซื้อของได้ตามปกติ เพียงแต่ขอให้ป้องกันตัวเองสวมหน้ากากอนามัย 100 % ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่าง ทุกคนต้องปลอดภัย
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดกอบกาญจน์นฤมิต กล่าวว่า หลังจากเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีมาทำความสะอาดตลาด พ่นยาฆ่าเชื้อ สร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวตลาดกอบกาญจน์นฤมิต เป็นอย่างมาก
ส่วนที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี นายสุขสวัสดิ์ สุขวรรณโณ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี จัดประชุมยกระดับมาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) เข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยเข้มงวดให้ผู้มาใช้บริการทุกคน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ก่อนเข้าภายในอาคาร มีการตรวจวัดอุณภูมิร่างกายก่อนเข้าภายในอาคาร ทุกคนต้องแสกน QR CODE และปฏิบัติตามมาตรการ SOCIAL DISTANSING และเมื่อเข้ามาอยู่ในอาคารก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในสนามบิน ผู้ส่งอาหารตามสั่งทุกคน ห้ามเข้าอาคาร ให้ผู้สั่งลงไปรับที่หน้าอาคาร
สำหรับผู้เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนลงจากเครื่อง และต้องกรอกเอกสารตามแบบฟอร์มที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอพุนพิน ขอความร่วมมือส่งเจ้าหน้าที่ก่อนออกจากท่าอากาศยาน ให้แสกน QR CODE ปฏิบัติตามมาตรการ SOCIAL DISTANSING รวมทั้ง ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในสนามบิน
ส่วนที่ อ.เกาะสมุย เนื่องจากมีไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อลงพื้นที่เกาะสมุยทีมสอบสวนโรค พบไทม์ไลน์ตั้งแต่ วันที่ 29 ธ.ค.63-วันที่ 3 ธ.ค.64 เดินทางไปร้านอาหาร 6 แห่งในพื้นที่ อ.เมือง และไป อ.เกาะสมุย ร้านอาหาร 1 แห่ง โรงแรม 1 แห่ง โดยถูกกักตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี วันที่ 4 – 6ม.ค.64 เก็บตัวอย่างตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อโควิด เก็บส่งตรวจครั้งที่ 2 พบเมื่อวันที่ 7 ม.ค.64 ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อต่ำมาก แต่ยังต้องกักตัวตามมาตรการทางสาธารณสุข
โดยศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) เกาะสมุย ชี้แจงกรณีไทม์ไลน์รายที่ 11 จ.สุราษฎร์ธานี ที่เดินทางมาเกาะสมุยวันที่ 2 ม.ค.64 กลับวันที่ 3 ม.ค.64 ผลการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 18 คน
และได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิดครั้งที่ 1 ที่ โรงพยาบาลเกาะสมุย ผลปรากฏทั้งหมดปลอดภัยไม่พบเชื้อโควิด ทั้งกลุ่มเพื่อนที่ร่วมรับประทานอาหารและพักด้วยกัน จำนวน 9 ราย พนักงานร้านเสบียงเล จำนวน 3 ราย และผู้ดูแลและพนักงานทำความสะอาดวิลล่าที่พัก จำนวน 6 ราย
ทางนายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุยได้ขอความร่วมมือทุกคนที่เดินทางเข้า-ออกเกาะสมุยให้สแกน QR Code และให้ข้อมูลที่เป็นความจริงต่อเจ้าหน้าที่ หากมีการตรวจพบภายหลังว่ามีการปกปิดข้อมูลจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที.
