เพชรบูรณ์-ผู้ว่าฯ ชี้สถานการณ์โควิดทรงตัวไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม เดินหน้าคุมเข้มทั้งภายนอก-ภายใน ยอมรับหากเขาค้อใช้แนวทางเดียวกับภูทับเบิกทำให้ตัดปัญหาปกปิดปลอมแปลงข้อมูล ผุดไอเดียโครงการตาสัปรดใช้สื่อโซเชียลช่วยเซฟเพชรบูรณ์
วันที่ 9 มกราคม นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในภาพรวมของ จังหวัดเพชรบูรณ์ขณะนี้ก็ยังทรงตัว โดยมีผู้ติดเชื้อ 1 รายแต่รักษาหายแล้วและไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม จึงถือว่าสถานการณ์ทรงตัวแต่ในการควบคุมได้เพิ่มความเข้มข้นขึ้น โดยแบ่งเป็น 2 องค์ประกอบคือ การควบคุมภายใน โดยกำนันผู้ใหญ่บ้าน,อสม.และประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแลในหมู่บ้านและคอยสังเกตคนแปลกหน้า เพราะจากการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ผ่านมาพบว่า ผู้ที่ป่วยติดเชื้อโควิดจะมีผู้ที่นำเชื้อเข้ามาในพื้นที่ ไม่ใช่ติดเชื้อหรือเกิดการแพร่ระบาดจากภายในจังหวัด ฉะนั้นจึงต้องเข้มงวดคนภายนอกที่จะเดินทางเข้ามา
นายกฤษณ์กล่าวว่า ส่วนการควบคุมภายนอกมีมาตรการควบคุมที่เข้มข้น หากเป็นรถส่วนตัวมาจากพื้นที่สีแดง 28 จังหวัดเข้ามาและไม่มีกิจธุระจำเป็น ตามมาตรการก็จะเชิญให้เดินทางกลับ ส่วนกรณีมาทางรถโดยสารประจำทางสาธารณะได้มีการตรวจคัดกรองรถทุกคัน หากพบมาจากพื้นที่โซนสีแดงก็จะให้เข้าสู่มาตรการแยกกักตัวเช่นเดียวกัน นอกนี้ขณะนี้ยังสั่งการให้ทุกอำเภอตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วมีปลัดอำเภอเป็นหัวหน้าและเป็นเวรสอบสวนรายวันเมื่อมีการรับแจ้งจากฝ่ายมาตรการควบคุมภายใน ชุดปฎิบัติการเคลื่อนที่เร็วก็จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการโดยทันที
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- "Gmm Show"แจ้งเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายบัตรทิพย์ คอนเสิร์ต Rock Mountain เขาค้อ
- เพชรบูรณ์ - นักท่องเที่ยวสุดเซ็ง! วางแผนไปเที่ยวเขาค้อภูทับเบิก หลังรู้ข่าวต้องเจอ"ทริปน้ำไม่อาบ" ยอมยกเลิกหรือปรับไปเที่ยวที่อื่นแทน
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
“ส่วนกรณีผู้ประกอบการรีสอร์ทภูทับเบิกทางประกาศปิดหรือระงับการให้บริการลูกค้ากันเอง รวมถึงวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วปิดชั่วคราวก็ถือว่าเป็นการส่งเสริมมาตรการอาจจะยอมเจ็บตัวในระยะเวลาสั้นๆ เชื่อว่าหลังวันที่ 17 ม.ค.หากสถานการณ์หากจังหวัดเรายังเป็นอย่างนี้ โดยสถานการณ์ก็ทรงตัวหรือหัวกาพย์ลดลง เราก็จะเข้มมาตรการภายนอกและค่อยๆให้คนในจังหวัดได้ทำมาหาก้นกันบ้าง”นายกฤษณ์กล่าว
นายกฤษณ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเขาค้อนั้นก็ขึ้นอยู่กับทางผู้ประกอบการ หากจะใช้แนวทางเดียวกันกับทางภูทับเบิกก็เป็นผลดีกับทางจังหวัด ทำให้มาตรการควบคุมง่ายและชาวเพชรบูรณ์ก็สบายใจ เหมือนกับมาตรการป้องกันควบคุมผู้ที่มาจาก 28 จังหวัดเข้าพักที่โรงแรม หากเขาค้อใช้แนวทางเดียวกับภูทับเบิกก็จะตัดปัญหาเรื่องมีการปกปิดและปลอมแปลงข้อมูลเข้าพักและการอ้างมาจากที่นั่นที่นี่ ขณะเดียวกันก็จะปลอดภัยทั้งผู้ประกอบการและประชาชนในจังหวัดด้วย แต่ทั้งนี้ด้วยสถานการณ์ในป้จจุบันยังไม่เข้มข้นถึงกับต้องไปสั่งปิด เพราะสถานการณ์ของจังหวัดเพชรบูรณ์ในเวลานี้การควบคุมถือว่าค่อนข้างดี
“เขาค้อไม่ใช่เป็นวิสาหกิจกิจชุมชนอย่างภูทับเบิก นอกจากนี้ผู้ประกอบการรีสอร์ทส่วนใหญ่ก็เป็นราษฎรชาวไทยภูเขาทำให้พูดคุยกันค่อนข้างรู้เรื่อง แต่เขาค้อนั้นผู้ประกอบการค่อนข้างหลากหลายก็คงจะยาก แต่ทั้งนี้หากสถานการณ์โควิดยังไม่ดีขึ้นและหากมีเหตุเกิดจากโรงแรมรีสอร์ท ก็อาจจะใช้อำนาจผู้ว่าฯ สั่งปิด เพราะเดิมก็เคยสั่งปิดมาแล้ว”นายกฤษณ์กล่าว
ผู้ว่าราชการจงหวัดเพชรบูรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีชาวเพชรบูรณ์อาศัยสื่อโซเชียลช่วยกันสอดส่อง กระทั่งสกัดนักท่องเที่ยวที่มาจากจังหวัดฉะเชิงเทราหรือพื้นที่สีแดงให้เดินทางกลับไปได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจนทำให้จุดประกายไอเดีย โดยฟื้นโครงการตาสัปรดขึ้น เพื่อจะอาศัยความร่วมมือจากชาวเพชรบูรณ์ หากพบเหตุการณ์ในทำนองนี้ สามารถอาศัยช่องทางสื่อโซเชียลช่วยแจ้งข่าวหรือกระจายข่าวหรือเบาะแส รวมทั้งแจ้งผู้ว่าฯ – นายอำเภอได้โดยตรง ซึ่งเป็นการช่วยกันเซฟเพชรบูรณ์ให้ปลอดจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: