นครศรีธรรมราช : นายช่างซ่อมรองเท้าชาวชะอวด “ปิ๊งไอเดีย” ทำป้ายโฆษณา ลงรูปภาพ พร้อมนโยบาย และสโลแกน ติดหน้าร้าน เลียนแบบป้ายหาเสียงผู้แทน เป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น ต่างพากันฉงนและสงสัย ตกลงเป็นป้ายอะไร ต้องรีบหาคำตอบ ผลตอบรับเกินความคาดหมาย ไม่มีใครไม่รู้จัก “พรรคนี้ซ่อมเกือก” ของนายชูศิลป์ ชุมภู 
หากใครขับรถเข้าไปยัง ถนนสายชะอวด-ควนเงิน ท้องที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือผู้ที่เข้าไปติดต่อราชการอำเภอชะอวด จะต้องได้พบเห็นแผ่นป้ายไวนิลขนาด 120 x 240 จำนวน 2 แผ่น ที่ปักอยู่ริมถนน ติดกับป้ายทางเข้าศูนย์ราชการอำเภอชะอวด ลักษณะคล้ายป้ายโฆษณาหาเสียงของผู้แทน ซึ่งมีรูปของชายคนหนึ่ง พร้อมข้อความตัวอักษรขนาดและสีสันต่าง ๆ ระบุชื่อผู้สมัคร คือ “ชูศิลป์ ชุมภู (หนูจันทร์)” พร้อมตราสัญลักษณ์และนโยบายของพรรค เบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขประจำตัวของผู้สมัคร รวมไปถึงเครื่องหมายกากบาทบนแผ่นป้ายสีแดงที่เห็นเด่นชัด หากดูผิวเผินจะคิดว่าเป็นป้ายหาเสียงของผู้ที่ลงสมัครทางการเมือง
แต่ถ้าใครสายตาค่อนข้างไวและเป็นคนช่างสังเกต จะต้องสะดุดตากับข้อความที่อยู่บนป้าย เพราะความแปลกแตกต่างไปจากป้ายหาเสียงที่เคยเห็น โดยเฉพาะชื่อพรรค “พรรคซ่อมเกือก” รวมถึงสโลแกน “มั่นคง ปลอดภัย ใส่เกือก” ไปจนกระทั่งนโยบาย ซ่อมเกือก แหก,โห,หลุด,ปลุ้ย,เปื่อย,เนือย,หมากัด, ที่ได้อ่านแล้วต้องรู้สึกฉงน จนต้องหาคำตอบให้ได้
ป้ายนี้ เป็นป้ายโฆษณาร้านซ่อมรองเท้า ของนายชูศิลป์ ชุมภู วัย 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 ม.8 ตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ลอกเลียนแบบมาจากป้ายหาเสียงของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยนำภาษาถิ่นที่ใช้ในพื้นที่ภาคใต้สื่อสารให้คนในพื้นที่เข้าใจได้ง่าย อย่างคำว่า “เกือก“ หมายถึง “รองเท้า“ “แหก“ หมายถึง “ฉีกขาด” “โห“ หมายถึง “พังเสียหาย” “ปลุ้ย“ หมายถึง “เสื่อมสภาพหมดอายุ,บวม,พอง” “เนือย“ หมายถึง “หิว“ ส่วนเลข 108 หมายถึง สารพัดปัญหา 108 พันประการ ก็สามารถซ่อมได้
นายชูศิลป์ เล่าว่า ประกอบอาชีพเป็นนายช่างซ่อมรองเท้ามากว่า 30 ปี ก่อนหน้านี้ เคยเปิดร้านอยู่ในตัวเมืองชะอวด มีลูกค้ามาใช้บริการมาก รายได้ดี เดือนละไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท แต่ต้องตกไปอยู่กับค่าเช่า จึงตัดสินใจย้ายกลับมาเปิดที่บ้าน แม้รายได้ลดลง เพราะอยู่ชานเมืองคนผ่านไป-มาน้อย จึงมีแนวคิดโปรโมทร้านแบบแปลกแหวกแนวเพื่อดึงดูดความสนใจ ด้วยการทำป้ายโฆษณารูปแบบป้ายหาเสียงของผู้แทน ติดไว้ที่หน้าบ้านทั้งสองฝั่ง ซึ่งผลตอบรับเกินความคาดหมาย จนเป็นที่รู้จักของผู้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว แวะเวียนมาสอบถามและใช้บริการตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
ภายในร้าน ยังจัดพื้นที่ไว้รับรองลูกค้า เพื่อนฝูง ที่แวะเวียนมา ได้รู้สึกผ่อนคลาย คล้ายร้านกาแฟนั่งสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ร่มไม้ ที่ร่มรื่น แต่บริการฟรี พร้อมตกแต่งด้วยสิ่งของเหลือใช้ที่นำมาพลิกแพลงให้เกิดประโยชน์ เช่น สุขภัณฑ์ต่าง ๆ นำมาเป็นกระถางต้นไม้ กะละมังเก่า ๆ พร้อมใบพัด นำมาทำพัดลม ที่สามารถตากแดด ตากฝนได้ ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติสไตล์เพื่อชีวิตได้อย่างลงตัว
“เครื่องดื่ม ชา กาแฟ ส่วนใหญ่เพื่อน ๆ จะซื้อติดไม้ติดมือมาไว้ให้ไม่ขาด หากเมื่อไหร่ที่ได้แวะเวียนเข้ามา ก็จะได้นั่งดื่มกิน พูดคุยสังสรรค์กัน” นายชูศิลป์ กล่าว
นายชูศิลป์ ยังมีความคิดสร้างสรรค์ นำ ปรัชญา คำคม สุภาษิต คำพังเพย ต่าง ๆ เขียนประดับไว้บริเวณร้าน เพื่อเตือนสติในการดำเนินชีวิตของคนเรา เช่น ปริญญาคือกุญแจ ประสบการณ์คือชีวิต, คนขยันขยับไม่ใช่คนรวยทุกคน แต่คนรวยทุกคนคือคนขยันขยับ, เศรษฐีเพิ่งผุด หน่อปุดเพิ่งแหมน, อยู่กับธรรมชาติ ชีวิตเดินช้าลง SLOW หรือแม้แต่คำคมล่าสุด ที่เขียนได้เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน คือ “โควิดนำเข้า บ่อน ทำลายชาติ“
แม้ช่วงนี้อาจจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ช่างซ่อมรองเท้า ไอเดียกระฉูดคนนี้ บอกว่า “พออยู่ได้” เนื่องจากปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ ให้ลูกค้านำรองเท้ามาทิ้งไว้ พร้อมระบุเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ หากซ่อมเสร็จจะโทร.ตามให้มารับ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ซึ่งลูกค้าก็รู้สึกพึงพอใจ
ลูกค้าที่ต้องการซ่อมแซมรองเท้าได้อย่างมีคุณภาพ และรักษาความทรงจำอันมีคุณค่าที่มีต่อรองเท้าคู่ใจ ไม่ว่าจะราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสน ทุกแบรนด์ ทุกยี่ห้อ นำมาให้นายชูศิลป์ ดูแลให้ ติดต่อได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 098-090-6896 นายช่างซ่อม ชูศิลป์ ชุมภู หรือที่เฟชบุ๊ก “ชูศิลป์ ชูศิลป์“
