นราธิวาส-นายกฯ ส่ง มท.1 ตามอุทกภัยและมาตรการโควิด ชม จนท.ทำงานเยี่ยม
เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 12 ม.ค. 64 พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ ได้เป็นตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังสวนสาธารณะสิรินธร อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก และ พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 รวมทั้งตัวแทนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 ตำบล 19 หมู่บ้าน 29 ชุมชน ของ อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 500 คน คอยให้การต้อนรับ
โดยนายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส ได้กล่าวสรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน 13 อำเภอ 70 ตำบล 450 หมู่บ้าน 37 ชุมชน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 25,211 ครัวเรือน รวม 91,099 คน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 8,508 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายแล้ว
ต่อจากนั้นพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยได้กล่าวพบปะพี่น้องประชาชนสรุปใจความว่า นายกรัฐมนตรีท่านเป็นห่วงประชาชนที่ประสบอุทกภัย ท่านอยากมาด้วยตัวเองแต่ติดประชุมเรื่องการแก้ไขปัญหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ท่านฝากกำลังใจมาถึงทุกคน โดยตนเองนั้นเคยเดินทางมาสุไหงโก-ลกหลายครั้งซึ่งมีน้ำท่วมทุกปี แต่อีกไม่นานปัญหาดังกล่าวจะถูกแก้ไข ซึ่งทราบว่าปีหน้าการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมจะแล้วเสร็จ
หลังจากนั้นพลเอกอนุพงษ์ รมว.มหาดไทยและคณะได้เดินทางไปยังสะพานด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก เพื่อดูสภาพพื้นที่น้ำท่วมและการดำเนินการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม หรือเขื่อนกั้นน้ำ ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้รับผิดชอบดูแลการดำเนินการก่อสร้าง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน รวมทั้งสร้างความเสียหายต่อด้านเศรษฐกิจ โดยมีระยะทาง 5 ก.ม. ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปีนี้ และสามารถป้องกันน้ำท่วมในย่านชุมชนต่างๆได้
ก่อนเดินทางกลับพลเอกอนุพงษ์ รมว.มหาดไทยได้กล่าวว่า ประเด็นที่มาดูแลในวันนี้มีเรื่องของอุทกภัยกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ได้มีการสร้างเขื่อนกันน้ำจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปีนี้ เชื่อว่าสามารถแก้ปัญหาได้ ทุกหน่วยงานให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ คาดว่าอีก 1-2 วันก็จะคลี่คลายกลับคืนสู่สภาวะปกติ ส่วนในระยะที่ 2 ก็จะมีการดำเนินการแก้ไขที่คลองตันหยงมัสและแม่น้ำบางนรา ในส่วนของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดมาจากต่างประเทศ เรามีการวางแผนงานดึงประชาชนเข้ามาดูแลในส่วนของการลักลอบเข้ามาเรามีบทเรียนแล้ว โดยเฉพาะแนวชายแดนเราได้วางเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ 3 ชั้น โดยแนวชายแดนใช้ ตชด.และกำลังทหาร ส่วนชั้นที่ 2 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนชั้นที่ 3 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองและประชาชน ในการสกรีนบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งทุกหน่วยมีมาตรการในการปฏิบัติตามหลักด้านสาธารณะสุขที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: