นครพนม – ตามรอยเกจิดังเทือกเขาภูพานน้อย Unseen วัดถ้ำสูงดอยสวรรค์ ไต่สะพานไม้โบราณชมวิวทิวทัศน์ฤดูหนาว เชื่อเป็นอดีตเมืองเก่าและพระธาตุศักดิ์สิทธิ์
วันที่ 21 มกราคม 2564 ณ พื้นที่จังหวัดนครพนมยังคงมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิเฉลี่ย 9 -12 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องมายาวนานนับเดือน ถือว่าในช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา นครพนมฉ่ำหนาวนานกว่าทุกปี จึงเป็นโอกาสสำคัญในการเดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งทางธรรมชาติ เพื่อชื่นชมความสวยงาม สัมผัสอากาศหนาวเย็น ท่ามกลางสถานการณ์โควิดระบาด
โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเชิงธรรมะ เช่น วัดถ้ำสูงดอยสวรรค์ บ้านท่าสีลาลม หมู่ 10 ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม ตั้งอยู่บนเขาภูพานน้อย เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่อันซีน (unseen) ที่น่าสนใจ มีทั้งความศักดิ์สิทธิ์ และความสวยงามทางธรรมชาติ เนื่องจากเป็นเทือกเขาสูงเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์และลี้ลับมาแต่อดีตกาล มีถ้ำอยู่บนหน้าผาสูง เคยเป็นที่ปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่สนธ์ คัมภีร์ญาโณ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดสันติการาม บ้านนาโสก ต.บ้านแก้ง อ.นาแก ที่รับได้รับฉายาว่าเป็นพระโพธิสัตย์ใหญ่แห่งเทือกเขาภูพาน เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริฑัตโต ที่เคยเดินธุดงธ์ไปวิปัสสนากรรมฐานบนวัดถ้ำสูงดอยสวรรค์แห่งนี้ และพัฒนาเป็นที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ตั้งแต่ปี 2509 จากนั้นได้ลงมาจำพรรอยู่ที่วัดสันติการาม เนื่องจากญาติโยมขอร้องเพราะท่านอยู่ในพื้นที่สู้รบ ระหว่างฝ่ายรัฐกับคอมมิวนิสต์ และได้ละสังขารลงเมื่อปี 2526 ขณะอายุ 68 พรรษา ปัจจุบันยังบรรจุสรีระท่านไว้ที่วัดสินติการาม รวมเป็นเวลา 38 ปีแล้ว
ปัจจุบันวัดถ้ำสูงดอยสวรรค์ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ และเหมาะแก่การไปท่องเที่ยวเชิงธรรมมะ สร้างความสงบแก่จิตใจ และไปขอพรเจริญภาวนา สัมผัสธรรมชาติความ รวมถึงความหนาวเย็นบนเทือกเขาสูงภูพานน้อย ปัจจุบันมีพระอาจารย์ พนมพร รตนโชโต อายุ 57 ปี เป็นเจ้าอาวาส ได้มาดูแลพัฒนาวัดต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 40 ปี อีกทั้งยังเป็นสถานที่ศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมขอพร ศึกษาธรรมชาติ ตามรอยพระเกจิชื่อดัง อีกทั้งยังเชื่อกันว่าพื้นที่จุดนี้ อดีตเป็นเมืองโบราณที่มีความศักดิ์สิทธิ์
นางสนม ศรีโท อายุ 65 ปี รองนายก อบต.บ้านแก้ง ที่ดูแลอุปัฏฐากวัดถ้ำสูงดอยสวรรค์ เปิดเผยว่าพื้นที่วัดมีระยะทางห่างจากตัว อ.นาแก ประมาณ 5 -6 กิโลเมตร เป็นเส้นทางคดเคี้ยว ผ่านป่าเขาภูพานที่มีการพัฒนาเป็นถนนคอนกรีตบางส่วน สามารถขับรถยนต์ขึ้นไปถึงวัด สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือ มีความสวยงามบนหน้าผาสูงชัน และมีหลักฐานการสร้างสะพานไม้โบราณมานานกว่า 60 ปี ซึ่งเป็นสะพานไม้เลียบเลาะไต่ขึ้นไปตามหน้าผา กลางหน้าผามีระดับสูงราว 20 -30 เมตร ถือเป็นอันซีนหาดูได้ยาก สื่อถึงความเพียรพยายามของพระและญาติโยมในอดีต ที่มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา และเคยเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่สนธ์ คัมภีร์ญาโณ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ปัจจุบันมีการปรับปรุงบางส่วนที่ชำรุดเสียหาย จากสะพานไม้เป็นสะพานบันไดเหล็กกับปูน เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ขึ้นไปกราบไหว้ขอพร และศึกษาเส้นทางตามรอยพระสายป่าที่เคยมาปฏิบัติธรรมกรรมฐานจนบรรลุธรรม ท่ามกลางความสงบร่มเย็นทางธรรมชาติ เชื่อกันว่าหากใครได้ไปกราบไหว้ขอพรบนวัดถ้ำสูงดอยสวรรค์ จะมีความร่มเย็นเป็นสุข มีโชคลาภ สุขภาพแข็งแรง เพราะภายในถ้ำยังมีการเก็บรักษาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และรูปปั้น หลวงปู่สนธ์ คัมภีร์ญาโณ นอกจากนี้ยังมีศาลาการเปรียญที่สร้างจากไม้ ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา ที่สำคัญยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นความสวยงามทางธรรมชาติบนหน้าผาสูงได้อีกด้วย แต่ฝากถึงประชาชน นักท่องเที่ยวที่สนใจ หากต้องการไปเที่ยวชมธรรมชาติ ขอให้มีความสำรวม และช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติ เพราะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยส่วนหนึ่งยังต้องการผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคพัฒนาก่อสร้างถนน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โทร 097-018-3897
ด้านพระอาจารรย์ พนมพร รตนโชโต เจ้าอาวาสวัดถ้ำสูงดอยสวรรค์ เปิดเผยว่า ได้มาบวชจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ได้ประมาณ 35 พรรษา โดยดูแลต่อจากหลวงปู่สนธ์ ที่ละสังขารไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ตนจึงได้มาพัฒนาเพราะเชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และมีตำนานความเชื่อมาแต่โบราณว่า หลวงปู่สนธ์เคยนิมิต ว่า พื้นที่หุบเขาแห่งนี้เป็นเมืองโบราณเก่า และมีพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ล่มสลาย จึงธุดงธ์มาปฏิบัติธรรม กรรมฐาน บนถ้ำสูง และมีการร่วมกันพัฒนากับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันยังมีญาติโยม ชาวบ้านมาปฏิบัติธรรม ในวันสำคัญต่างๆ ตลอด โดยทางวัดได้สงวนไว้เป็นที่ศึกษาท่องเที่ยวเชิงธรรมมะ และคงเน้นไว้ซึ่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีเพียงการพัฒนาเส้นทางปรับปรุงถนนที่เป็นลูกรังให้เป็นคอนกรีตจากกำลังศรัทธาของผู้ใจบุญร่วมบริจาค เพื่อต้องการให้เกิดความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการมาแสวงบุญ ศึกษาท่องเที่ยว แต่ยังมีบางส่วนที่ยังขาดปัจจัย จากผู้มีจิตศรัทธา
