ราชบุรี ในวันนี้ี้ (26 ม.ค. 64) ได้มีตัวแทนชาวบ้านในหมู่ 4 หมู่ 8 และหมู่ 10 บ้านหนองนกกระเรียน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เดินทางมาที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านหนองนกกระเรียน พร้อมป้ายข้อความ “ ชาวบ้านไม่เอาฟาร์มหมู “ “ ทุกวันนี้ก็เหม็นขี้เป็ด ร้องเรียนไปยังแก้ไขให้เราไม่ได้เลย “ เพื่อขอให้ทางนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอจอมบึงมารับเรื่องร้องเรียน โดยนายนภดล สุกาญจนโชติ อายุ 58 ปี ชาวบ้านในหมู่ 10 ต.รางบัว อ.จอมบึง ก็บอกว่า ตนเองนั้นเคยมีประสบการณ์เรื่องที่มีบ้านอยู่ใกล้กับฟาร์มหมูที่อำเภอโพธาราม ซึ่งสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เหม็นจนจุกอก ทนไม่ไหวจนต้องเข้าโรงพยาบาล ไปร้องเรียนหลายครั้งและสุดท้ายตนก็ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่หมู่ 10 บ้านหนองนกกระเรียน ต.รางบัว แล้วพอมีข่าวว่ามีเจ้าของฟาร์มหมูรายหนึ่งเข้ามาขอทำประชาพิจารณ์เพื่อจะขอสร้างฟาร์ม โดยไล่ทำประชาพิจารณ์แต่ละหมู่บ้าน ซึ่งตนนั้นยอมไม่ได้เพราะถ้าปล่อยให้มีฟาร์มหมูเกิดขึ้นมาก็จะเดือดร้อนกันหมด ขนาดฟาร์มหมูที่อำเภอโพธาราม นั้นอยู่ห่างประมาณ 2-3 กิโลเมตร ยังเหม็นจนทนไม่ไหว แต่ในพื้นที่นี้อยู่ติดกับพื้นที่เลย ถ้ามาทำประชาพิจารณ์ในหมู่ที่ 10 ตนก็จะไม่ยอมให้ผ่าน หรือไม่ก็มาซื้อผมไปเลยแล้วผมจะยอมย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอื่น
ด้านนายเทียนชัย เทพวาส อายุ 47 ปี ชาวบ้านในหมู่ 8 ต.รางบัว ก็บอกว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา มีการทำประชาคมไปแล้ว แต่ทำประเภทลักไก่ โดยผู้นำชุมชนนั้นรู้อยู่แก่ใจ แต่พอตนขึ้นไปแย้งก็บอกว่าประชาคมผ่านแล้ว อย่างนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง และชาวบ้านเองก็ไม่ทราบลายละเอียดของฟาร์มเลยว่าจะเลี้ยงแบบไหน จะเลี้ยงกี่ตัว ซึ่งในวันที่ทำประชาพิจารณ์ก็ได้ไปคัดค้านแล้ว ศูนย์ดำรงธรรมก็ไปร้องมาแล้ว ไปร้องนายกอบต.รางบัว ซึ่งทางนายกอบต.รางบัวก็บอกว่าจะทำหนังสือให้ผู้ใหญ่บ้านไปชี้แจงกับชาวบ้าน แต่จนมาถึงตอนนี้เรื่องก็เงียบ แม้ว่าตอนนี้ทางโรงงานจะยังไม่ได้ก่อสร้างอะไร แต่เชื่อว่าประมาณเดือนมีนาคม จะเริ่มดำเนินการ เพราะฉะนั้นชาวบ้านจึงต้องออกมาคัดค้านไม่ให้มีการก่อสร้างก่อน เพราะมีประสบการณ์จากฟาร์มเป็ดที่อยู่ใกล้ๆชุมชนยังแก้ไขไม่ได้เลย และฟาร์มนี้ก็อยู่ใกล้วัดและใกล้ชุมชนด้วย
ต่อมานายพลกฤติ พวงวลัยสิน นายอำเภอจอมบึง พร้อมกับ พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง ได้เดินทางมาพุดคุยกับชาวบ้าน พร้อมกับขอบคุณที่ชาวบ้านส่งตัวแทนมา เพราะในช่วงนี้เกิดสถานการณ์โรคโควิดระบาด ถ้ามาชุมนุมกันมากๆอาจจะเกิดปัญหาและผิดกฎหมายได้ ส่วนเรื่องของการทำประชาคมที่ชาวบ้านบอกว่ามีการทำไปบางหมู่บ้านนั้น ก็จะได้ให้ทางผู้นำชุมชนได้มาชี้แจงว่า ทำไปหรือยัง ถ้าทำแล้วมีหน่วยงานไหนเข้าร่วมบ้าง มีผลดี ผลเสียอย่างไร เพราะการจะทำประชาคมนั้นทางอำเภอจะต้องเข้ามาร่วมด้วย แต่ในครั้งนี้ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว จึงยังไม่ทราบว่ามีการทำประชาคมหรือยัง เพราะโรงงานประเภทที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้นทางหน่วยงานราชการจะต้องดำเนินการตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีผลดี ผลเสียต่อชุมชนหรือไม่
เบื้องต้นตัวแทนชาวบ้านที่มานั้นต่างก็พอใจที่นายอำเภอจอมบึง จะดำเนินการในเรื่องนี้ให้ จากนั้นก้ได้แยกย้ายกันกลับ
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: