อุบลราชธานี – อุบลราชธานี ติดโควิดรายที่ 4อยู่ กทม.กลับมาบวชหน้าไฟให้ยาย
ที่ศาลากลางจังหวัด อุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด อุบลราชธานี และประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแถลงพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัศโควิด 19 รายที่ 4 เป็นชายอายุ 30 ปี ทำงานอยู่ในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ศูนย์การค้าดังในกรุงเทพฯ เดินทางกลับมาบวชหน้าไฟให้กับยายที่บ้านบัวแดง ต.หนองบัวฮี อ.พิบูลมังสาหาร โดยนั่งรถทัวร์เที่ยวค่ำถึงบ้านในตอนเช้าวันที่ 20 ม.ค. โดยพ่อขับรถยนต์ส่วนตัวไปรับจากตัวอำเภอกลับมาบ้าน และไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ จึงไม่มีการกักตัว
ระหว่างพักอยู่ที่จังหวัด มีการตั้งวงดื่มสังสรรค์กับเพื่อนในหมู่บ้าน รวมทั้งช่วงบ่ายวันที่ 23 ม.ค. ไปรับลูกในตำบลคันไร่ อ.สิรินธร มาเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้ากิน KFC กระทั้งวันที่ 24 ม.ค.ได้รับโทรศัพท์จากที่ทำงานมีคนติดไวรัสโควิด 19 วันที่ 25 ม.ค.จึงนั่งรถส่วนตัวไปขอตรวจที่โรงพยาบาลอุบลรักษ์ ธนบุรีในตัวจังหวัด พบติดเชื้อแบบยังไม่แสดงอาการและโรงพยาบาลได้รับตัวไว้รักษา
นายสฤษดิ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงตรวจค้นหาเชิงรุกกับชาวบ้านที่เป็นคนกลุ่มเสี่ยงของบ้านบัวแดงทั้งหมด โดยเฉพาะในกลุ่มเพื่อนที่ร่วมดื่มสังสรรค์กัน รวมทั้งยังได้ตรวจไปถึงพื้นที่ตำบลคันไร่ที่ลูกของผู้ติดเชื้อพักอาศัยอยู่ ซึ่งผลการตรวจหาเชื้อในคนกลุ่มเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดคาดจะรู้ผลในเร็วๆนี้
สำหรับผู้มีโอกาสสัมผัสคนอื่นๆที่ผู้ป่วยไปเดินห้างกับลูก ก็ขอให้มาพบกับเจ้าหน้าที่ เพื่อขอรับการตรวจเพิ่มเติม หรือให้กักตัวสังเกตดูอาการ 14 วัน เพราะผู้ติดเชื้อเป็นผู้ป่วยที่ยังไม่แสดงอาการ การแพร่เชื้อยังมีน้อย และตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้านก็ได้สวมหน้ากาก
และหลังจากนี้ จะมีการสั่งให้ยกมาตรการตรวจเข้มตามด่านตรวจ และเอาผิดกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นที่อยู่ เหมือนรายนี้ ซึ่งจากการตรวจวัดอุณหภูมิแล้วไม่เป็นไข้ แต่ก็ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ รวมทั้งต้องโหลดแปพลิเคชั่นฮักอุบล หรือหมอชนะระหว่างเข้ามาอยู่ในจังหวัดด้วย
ซึ่งการระบาดรอบใหม่นี้ จังหวัดมีผู้ป่วยรวมรายล่าสุดนี้เป็น 4 คน หายป่วยแล้ว 2 คน อกรายที่เป็นลุงขายผักที่มีอายุมาก ขณะนี้ไม่มีเชื้อโควิด 19 แล้ว แต่ยังต้องรักษาตัวต่อกับอาการโรคไตวายเรื้อรังที่เป็นโรคประจำตัวมาก่อนติดโควิด 19
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: