รวบแล้ว 2 โจรแสบ ทีมงานโจรกางเกงใน หลังนำมือถือไปขายในพื้นที่ หาดใหญ่ ตร.ตรวจยึดโทรศัพท์ของกลางกลับคืนกว่า 100 เครื่อง
เมื่อวันที่ 27 มค.2564 เวลา 19.30 น.ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา พลตำรวจตรีทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา แถลงข่าวความคืบหน้า จากกรณี ที่เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 09.45 น. ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนเข้าไปลักทรัพย์สินภายในร้านบานาน่า เลขที่ 65 ถนนรวมมิตร ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้ทรัพย์สินสูญหายกว่าร้อยรายการ มูลค่ากว่าล้านบาทเศษ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจุดสืบสวนคดีความมั่นคง ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ติดตามข้อมูลคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาเพียง 1 วัน ในที่สุดทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือนายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี อยู่ในขณะนี้ ได้นำทรัพย์สินที่ลักขโมยไป ได้นำไปให้แก่นายธัตธน นนทะสร และนายธีรภัทร์ ณรงค์กูล ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันขณะอยู่ในเรือนจำ เพื่อนำไปขายต่อในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันกระทำความผิดได้ทั้งสองคนที่ ห้องพักหมายเลข 503 โรงแรมพีบีแกรนโฮเตล ถนนราษฎรร์อุทิศ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยติดตามตรวจยึดทรัพย์สินคืนมาได้ทั้งหมดมากว่าร้อยรายการ ส่วนผู้ก่อเหตุนายเจ๊ะอิสมะแอ อยู่ระหว่างหลบหนี ทุกฝ่ายจะได้ติดตามตัว มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“ส่วนนายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ เป็นมิจฉาชีพ ที่ลงมือก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ และล่าสุดเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ เมื่อเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่าน โดยจะเลือกลงมือก่อเหตุเฉพาะร้านจำหน่ายมือถือ ที่มีลักษณะเป็นร้านขนาดใหญ่ ที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมตัว โดยเชื่อว่ายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งนี้ได้สอบถามทาง 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ว่า เหตุใด นายเจ๊ะอิสมะแอ จึงถอดเสื้อผ้า เหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว ขณะก่อเหตุลักทรัพย์ ซึ่ง 2 ผู้ต้องหาก็ให้คำตอบไม่ได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คงจะต้องการให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวยากขึ้นหรือไม่มีหลักฐาน เนื่องจากรู้ว่าภายในร้านมีกล้องวงจรปิด หากสวมเสื้อผ้าก็จะสามารถติดตามจับกุมได้ง่ายขึ้น” ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าว
พลตำรวจตรีทินกร ยังบอกอีกว่า เด็กคนนี้มีประวัติเกี่ยวกับเรื่องการลักทรัพย์โทรศัพท์มาหลายครั้ง ตั้งแต่ประวัติการต้องโทษอายุ 11 ปี ทำหน้าที่เกี่ยวกับการลักทรัพย์อย่างนี้มาต่อเนื่องและหลายพื้นที่ตั้งแต่ภาค 3 ภาค 4 ตั้งแต่จังหวัดอุบล หนองบัวลำภู และไล่มากระทั่งหัวหิน และเข้ามาที่นครศรีธรรมราช และสุดท้ายพึ่งออกจากเรือนจำมาเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมานี้ หลังจากออกมาจากเรือนจำมาก็ก่อเหตุในพื้นที่ยะลา และได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือไปรวมทั้งสิ้นประมาณ 123 เครื่อง หลังจากได้โทรศัพท์ไปแล้วหลบหนีไปที่อำเภอหาดใหญ่ เข้าไปในอำเภอหาดใหญ่มีการเอาโทรศัพท์ของกลางให้เพื่อนไปปล่อยขายที่ร้านขายโทรศัพท์ ในหาดใหญ่ส่วนหนึ่ง และทยอยออกมาขาย หลังจากที่ได้เบาะแสหล่าวนี้ได้มีการสืบสวนต่อจนกระทั่งรู้ตัวว่าคนที่นำโทรศัพท์ไปขาย คือคนที่เป็นเพื่อนเขา ซึ่งรู้จักกันในเรือนจำที่สงขลา ถูกจับดำเนินคดีเรื่อง พรบ.ยาเสพติด และต้องโทษอยู่ในเรือนจำที่สงขลา หลังจากที่รู้จักกันออกจากคุกมาก็ติดต่อกัน และเคยลักเรื่องของโทรศัพท์เอาไปปล่อยแบบนี้มาแล้ว หลังจากได้ข้อมูลเบาะแสหล่าวนั้นมาแล้วได้ขยายผลต่อยึดทรัพย์ที่ขโมยไป และซ่อนไว้ยังไม่ได้ออกขายจำหน่ายได้คืนมาก็เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลการดำเนินการดังกล่าวก็เกิดขึ้นความร่วมมือร่วมใจของนโยบายผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกนาย ส่วนคนร้ายที่ยังคงหลบหนี เชื่อว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้
ขณะที่เจ้าของร้าน บานาน่า ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถใช้เวลาอันรวดเร็วในการติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุ พร้อมนำของกลางกลับคืนมาได้เกือบครบของจำนวนที่ถูกขโมยไป
