อุบลราชธานี-สถานศึกษาอุบลฯ ขับเคลื่อนอาหารปลอดภัย โรงเรียนกินสบายใจ สู้ภัยโควิด-19
มูลนิธิสื่อสร้างสุข ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย ภาครัฐและเอกชน โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมงานเทศกาลกินสบายใจ ห่างไกลโรค ปี 9 “โควิด -19 เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก” เพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะที่ดี พัฒนาห่วงโซ่อาหารปลอดภัย และส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ระหว่างวันที่ 29-31 มกราคม 2564 ณ ลานแสดงกิจกรรม ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า สุนีย์ทาวเวอร์ อุบลราชธานี
ซึ่งวันนี้ (30 ม.ค.64) เทศกาลกินสบายใจฯได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยงานนี้เปรียบเหมือนพื้นที่พบปะระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค ซึ่งในตลอดงานมีกิจกรรมและการจัดจำหน่ายสินค้าผลผลิตเกษตรอินทรีย์ราคาพิเศษจากเกษตรกรในเครือข่าย พร้อมไฮไลท์สำคัญกิจกรรมเวทีเสวนา “ชวนเปลี่ยน” ที่จัดรูปแบบใหม่ อย่าง New Normal โดยจะออกสดผ่านช่องทางออนไลน์ เพจกินสบายใจ เพจอุบลคอนเนก เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ช่อง VR Cable tv เพจสถานีข่าววีเคเบิ้ลทีวีอุบลฯ เพจอยู่ดีมีแฮง เพจ Sunee Tower และเพจมูลนิธิสื่อสร้างสุข
โดยในส่วนของการเสวนาภาคบ่ายได้เชิญตัวแทนจาก 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนเวตะวันวิทยา,โรงเรียนบ้านห้วยไฮ,โรงเรียนแก้งอะฮวน ที่อยู่ภายใต้การดำเนินงาน “โรงเรียนกินสบายใจ” ร่วมการเสวนาบนหัวข้อที่ชื่อว่า “โรงเรียนกินสบายใจ สู้ภัยโควิด 19”
ด้าน อาจารย์สมาน วิโรจน์อุไรเรือง ผู้อำนวยการโรงเรียนเวตวันวิทยา เผยแนวคิดการลดหวานมันเค็มของโรงเรียนเวตวันวิทยาว่า ทางโรงเรียนเวตวันวิทยาได้เล็งเห็นความสำคัญของอาหารปลอดภัย มีความต้องการที่จะลดละเลิกเรื่องรสชาติอาหารหวานมันเค็มภายในโรงเรียน ทั้งนี้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพ่อค้าแม่ค้าในโรงเรียนได้รู้จักกับคุณประโยชน์ของสารอาหร พร้อมส่งเสริมให้เด็กในโรงเรียนสนใจและเห็นประโยชน์ความสำคัญของการรับประทานผัก ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนของคุณครูในชั้นเรียน
และนอกจากนี้โรงเรียนเวตวันวิทยา ยังได้ขับเลื่อนนโยบายโรงเรียนกินสบายใจสู้ภัยโควิด-19 ผลักดันให้เด็กนักเรียนทานอาหารครบ 3 มื้อ และ 5 หมู่ ด้วยผลผลิตอินทรีย์ที่ผลิตเองในโรงเรียนและชุมชน โดยมีผู้บริหารช่วยวางแผนสร้างความตระหนัก นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงแม้ในภาวะวิกฤตก็สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและยั่งยืน โดยความหมายของคำว่ายั่งยืนคือนักเรียนทุกคนจะต้องมีสุขภาพที่ดี ร่างกายสมส่วน สมองสามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถัดมา อาจารย์ฉวีวรรณ เมืองซอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไฮ เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับวิธีการและแนวคิดการพึ่งตนเองของโรงเรียนบ้านห้วยไฮว่า โรงเรียนบ้านห้วยไฮเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ผู้ปกครองส่วนของนักเรียนมีอาชีพทำไร่ทำสวน ซึ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้หลายคนเห็นว่าโรงเรียนบ้านห้วยไฮ สามารถอยู่ได้พึ่งพาตนอาศัยผลผลิตในโรงเรียน อาทิ ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ พืชผักปลอดภัยจากสารเคมี ตลอดจนสามารถขายผลผลิตให้กับคนในชุมชนได้
ทั้งนี้โรงเรียนบ้านห้วยไฮ มีการขับเคลื่อนโรงเรียนพึ่งพาตนเองอย่างต่อเนื่องได้มีการนำองค์ความรู้ไปสอดแทรกไว้ในชั้นเรียน พร้อมส่งเสริมพานักเรียนลงมือปฏิบัติเลี้ยงหมู ไก่ ปลา ทำฟาร์มเห็ด ปลูกแปลงผัก สร้างความตระหนัก สร้างความเข้าใจ สร้างจิตสำนึกตั้งแต่เด็กเล็กขยายสู่ลงชุมชน แต่ทั้งนี้สิ่งที่โรงเรียนกำลังขับเคลื่อนอยู่จะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยชุมชนและผู้ปกครองร่วมปรับพฤติกรรมสร้างการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
ส่วน อาจารย์อดิเทพ หวลหอม ผู้อำนวยการโรงเรียนแก้งอะฮวน เล่าถึงแนวคิดการเป็นต้นแบบศูนย์เรียนรู้โรงเรียนแก้งอะฮวนว่า ทางโรงเรียนแก้งอะฮวนได้เล็งเห็นความสำคัญของเด็กในโรงเรียน เพราะนักเรียนส่วนใหญ่เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมักจะไม่ศึกษาต่อ แต่จะมุ่งหน้าทำการเกษตรกรรมตามอาชีพดั้งเดิมของผู้ปกครอง ทั้งนี้ผู้บริหารจึงอยากพัฒนาผลักดันให้โรงเรียนเป็นศูนย์เรียนรู้ฝึกทักษะชีวิตย่างเป็นรูปธรรม
สร้างความรู้เน้นทักษะอาชีพและวิชาการติดตัวสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยให้ครอบคุ้มหลักสูตรแกนกลางส่งเสริมทักษะชีวิต วิชาการ และอาชีพ ซึ่งในแต่ละทักษะจะสอดคล้องกันตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงในอนาคต เช่น การปลูกผักทานเอง การทำปุ๋ยหมักใช้เอง ปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักคุณและโทษ
สามารถชมย้อนหลังการเสวนา “โรงเรียนกินสบายใจ สู้ภัยโควิด 19”
ได้รับการสนับสนุนจาก สสส.
ชิษณุพงศ์ สุนทรพาณิชย์ เรียบเรียง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: