ฉะเชิงเทรา – ซากเรือยักษ์ ลอยป่วนปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ถูกคลื่นลมแรงซัดเข้าปะทะท่าเทียบเรือศูนย์ฝึกอบรม กฟผ.พังเสียหาย ก่อนมีผู้รับเป็นเจ้าของโผล่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ที่จะยินยอมชดใช้ซ่อมแซมความเสียหายให้ ในเบื้องต้นพบเป็นเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ที่เตรียมจะนำมาตัดรื้อออกมาขายเป็นเศษเหล็กหลังการปลดระวางเลิกใช้งาน
วันที่ 30 ม.ค.64 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลา 06.20 น. ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้นทอง พนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจากทาง รปภ.ของศูนย์ฝึกอบรมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่าได้มีซากเรือขนาดใหญ่ไม่ทราบผู้เป็นเจ้าของลอยมากระแทกเข้ากับท่าเทียบเรือของ กฟผ. จนได้รับความเสีย
ทำให้เสาไฟส่องสว่างภายในท่าเทียบเรือได้รับความเสียหาย 1 ต้น และแนวขอบคอนกรีตของท่าเทียบเรือถูกแรงกระแทกจนชำรุดเกิดเป็นรอยแตกร้าว จึงต้องการให้พนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุ เดินทางไปตรวจสอบ และบันทึกความเสียหายที่เกิดขึ้นไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากไม่ทราบว่าซากเรือลำดังกล่าวนี้เป็นของผู้ใด
จากนั้นในช่วงสายที่ผ่านมา ได้มีผู้เข้ามาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของซากเรือลำดังกล่าว และได้รับปากต่อทางเจ้าหน้าของศูนย์ฝึกอบรม กฟผ. ว่าจะยินยอมชดใช้ซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นไม่เกิน 1 แสนบาท ก่อนที่จะลากเอาซากเรือออกไปจากจุดเกิดเหตุ โดยนำไปจอดทิ้งไว้ยังแนวป่าชายเลน บริเวณใกล้ปากคลองตำหรุติดกับแนวเขต จ.ชลบุรี ห่างจากจุดเกิดเหตุออกไปประมาณ 600 เมตร
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุ ได้พยายามเดินทางไปยังในบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่ของ กฟผ.ให้เข้าไปยังภายในพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาในเวลาประมาณ 13.00 น. จึงได้ว่าจ้างเรือของชาวบ้าน เพื่อเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุทางน้ำ โดยพบว่า บริเวณดังกล่าวมีท่าเทียบเรือที่ยื่นเข้ามาในลำน้ำรวมจำนวน 4 ท่า
โดยเป็นของ กฟผ. จำนวน 3 ท่า และเป็นของบริษัทเอกชนอีกจำนวน 1 ท่า โดยมีเรือของกรมเจ้าท่าขนาดใหญ่จอดเทียบอยู่ที่บริเวณท่าที่ 3 ของ กฟผ. จำนวน 1 ลำ ห่างออกไปประมาณ 500-600 เมตร ภายในลำน้ำใกล้ปากอ่าว พบว่ามีซากเรือบรรทุกสินค้า ซึ่งมีโครงสร้างเป็นโลหะสภาพถูกรื้อชิ้นส่วนด้านบนออกไปแล้วบางส่วน จอดชิดแอบอยู่กับแนวป่าชายเลนด้านฝั่งทิศตะวันออกของลำน้ำจริง
ซึ่งเรือลำดังกล่าวมีขนาดกว้างประมาณ 20 เมตรยาวประมาณ 60 เมตร สูงกว่า 10 เมตร สอบถามชาวบ้านทราบว่า ก่อนหน้านี้ ซากเรือเก่าลำนี้ได้ถูกนำมาทำการรื้อถอดชิ้นส่วนยังที่บริเวณท่าเทียบเรือบรรทุกทรายเก่า ของบริษัทเอกชนชื่อดังด้านรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ระดับเมกะโปรเจคแห่งหนึ่ง (ที่เคยเกี่ยวข้องกับคดีล่าสัตว์ป่า) แต่ต่อมาอาจติดขัดปัญหาบางอย่างเรือลำดังกล่าวจึงได้ถูกให้เคลื่อนย้ายออกมาลอยทิ้งไว้ที่บริเวณกลางปากอ่าวจนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ขึ้น
แต่โชคดีที่เรือลำขนาดยักษ์ลำนี้ ไม่ได้ถูกกระแสคลื่นลมซัดเข้าไปปะทะเข้ากับบ้านเรือนหรือทรัพย์สินของประชาชนในบริเวณปากแม่น้ำ โดยในวันนี้ที่บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง ยังคงมีเรือขนส่งสินค้าบรรทุกก๊าซธรรมชาติขนาดลำเรือใกล้เคียงกัน จอดทอดสมออยู่บริเวณกลางแม่น้ำอีกจำนวน 2 ลำ และยังมีเรือรับจ้างให้บริการนักตกปลา มาจอดทิ้งสมอเพื่อให้นักตกปลา ตกปลาอยู่อีกจำนวน 2 ลำ แต่ไม่ได้ถูกเรือใหญ่ลำดังกล่าวลอยเข้ามาปะทะด้วยแต่อย่างใด
