โจรใต้เหิม! ป่วน 3 อำเภอนราฯ ก่อนบึ้มซ้ำ ตร.ชุดสืบฯ เจ็บ 5
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ม.ค.2564 พ.ต.อ.อดุลย์ เง๊าะ ผกก.สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส ร.ต.อ.พลวัฒน์ เทพษร รอง สารวัตรชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบก่อกวนจำนวน 4 จุด เหตุเกิดในช่วงระหว่างเวลา 01.00 น. ถึงเวลา 05.00 น.ของวันที่ 31 ม.ค.2564 ทั้งตัดต้นไม้ขวางถนน เผากล้องวงจรปิดและวางวัตถุต้องสงสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้กันพื้นที่ไว้ เพื่อเข้าทำการตรวจสอบในช่วงเช้า เกรงคนร้ายจะวางแผนลวงเพื่อดักสังหาร
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายตัดต้นไม้ขวางถนนสายดุซงญอ – ร่มไทร ช่วงบริเวณบ้านริแง ม.3 ต.ผดุงมาตร โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องสแกนตรวจจับโลหะ เพื่อตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบริเวณต้นไม้ที่ล้ม รวมทั้งตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่วางไว้กลางถนน ซึ่งห่างจากต้นไม้ที่โค่นล้ม ประมาณ 5 เมตร เป็นกระป๋องแก๊สแบบพกพา จำนวน 2 กระป๋อง ที่ผูกติดกันด้วยผ้าเทปพันสายไฟสีดำ และมีสายไฟฟ้าสีขาวและสีดำโผล่ออกมาจำนวน 2 เส้น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่าเป็นระเบิดปลอม ที่คนร้ายหวังสร้างความปั่นป่วนให้กับเจ้าหน้าที่ ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
ส่วนจุดที่ 2 ซึ่งห่างจากจุดแรก ประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิด ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ ที่นำไปติดตั้งไว้บริเวณบนเสาไฟฟ้าหน้ากันสาดบ้านพักของชาวบ้านที่ปลูกสร้างริมถนน เลขที่ 9 ซึ่งถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย จำนวน 1 ตัว ซึ่งมีเศษซากชิ้นส่วนของยางรถจักรยานยนต์ ที่คนร้ายใช้เป็นเชื้อเพลิง
จุดที่ 3 ซึ่งห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 20 เมตร คนร้ายได้ใช้สเปรย์สีขาว พ่นข้อความเป็นอักษรภาษาอังกฤษ มีใจความว่า FREEDOM PATANI และพ่นข้อความภาษาไทย มีใจความว่า อย่าเป็นทาสสยาม โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบสิ่งแปลกปลอมใดๆในที่เกิดเหตุ
และจุดที่ 4 ซึ่งห่างจากจุดที่ 3 ประมาณ 300 เมตร คนร้ายได้ลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ ที่นำไปติดตั้งไว้บนเสาแป๊บเหล็กข้างเพิงจำหน่ายสินค้าริมถนนของชาวบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ตลาดชุมชนเมาะตาโกะ ม.4 ต.ผดุงมาตร โดยคนร้ายได้ใช้ยางของรถจักรยานยนต์เป็นเชื้อเพลิง ได้รับความเสียหาย 1 ตัว
ส่วนในพื้นที่ อ.ศรีสาคร เมื่อเวลา 11.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสาคร ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว 4 ประตู ทะเบียน 7 กอ 8364 กทม. นำคณะและเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดกองกำกับการตำรวจภูธร จ.ยะลา และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ แขวนป้ายผ้า พ่นสีสเปรย์ไล่เจ้าหน้าที่ทหารและเผายางรถยนต์ เหตุเกิดในช่วงเวลา 04.00 น. วันที่ 31 ม.ค. 2564 เมื่อถึงบริเวณบ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้ใต้ผิวถนน จนเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสาคร แล่นผ่านทำให้ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ส่วนรถยนต์ได้รับความเสียหาย จนกระเด็นลอยไปห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่ที่ขับรถยนต์ตามขบวนคณะดังกล่าว ต่างพากันจอดรถและรีบนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาลศรีสาครอย่างเร่งด่วน
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย 1.ร.ต.อ.พนมกร แซ่ฮ่อน รองสารวัตรสืบสวน 2. ส.ต.อ.ธีรศักดิ์ พรภักดี 3.ด.ต.ยุทธกร เรืองเพ็ง 4. ส.ต.อ.นเรศ สัญกูล และ 5. ส.ต.ท.ปิยพงศ์ เพชรจำรัส ซึ่งทั้ง 4 นาย ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ศรีสาคร
ต่อมาหลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เมธา สิงหะเสนา ผกก.สภ.ศรีสาคร และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมกลางถนน ลึก 1 เมตร กว้าง 2 เมตร มีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 50 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นความเกี่ยวเนื่องและเชื่อมโยงกับเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ แขวนป้ายผ้า พ่นสีสเปรย์ไล่เจ้าหน้าที่ทหารและเผายางรถยนต์ ในช่วงคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร ที่คนร้ายได้มีการวางแผนเป็นอย่างดี ด้วยการก่อเหตุแล้วลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แล้วลอบนำระเบิดมาฝังไว้ในการดักสังหาร
ต่อมาหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดแล้วเสร็จ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น และของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแเทค ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนบ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร ซึ่งห่างจากจุดระเบิดประมาณ 2 ก.ม. โดยพบว่าคนร้ายได้นำยางรถจักรยานยนต์เป็นเชื้อเพลิง ไปวางไว้บริเวณสายส่งสัญญาณโคนของเสาโทรศัพท์มือถือ จนเปลวไฟได้ลุกลามสร้างความเสียหายบางส่วน
จุดที่ 2 คนร้ายได้นำป้ายผ้าสีขาว ขนาดกว้าง 1 หลา ยาว 2 หลา ซึ่งเขียนเป็นอักษรภาษาไทยสีน้ำเงิน มีใจความว่า เพื่อความปลอดภัยของท่าน ขอความร่วมมือชาวไทยพุทธ ห้ามล่าสัตว์ป่าหรือหมูป่า ในบริเวณพื้นที่ทำกินของชาวไทยมุสลิม ไปผูกติดไว้กับราวสะพานเขตรอยต่อบ้านไอร์ตุย ม.1 กับบ้านกะลุบี ม.4 ต.ซากอ โดยไม่มีวัตถุแปลกปลอมใดๆ วางไว้ในที่เกิดเหตุ
จุดที่ 3 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบนถนนสาย อ.ศรีสาคร ไป อ.จะแนะ ช่วงบริเวณบ้านไอร์แยง ม.3 ต.ศรีสาคร ซึ่งคนร้ายได้ใช้สีสเปรย์พ่นข้อความภาษาไทย มีใจความว่า ทหารออกไป และจุดที่ 4 คนร้ายเผายางรถยนต์กลางถนน ที่เป็นเขตรอยต่อมุ่งหน้าไปยังบ้านน้ำวน ม.1 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ ซึ่งจุดดังกล่าวนี้เจ้าหน้าที่ไม่พบคนร้ายวางวัตถุแปลกปลอมใดๆ ในที่เกิดเหตุเช่นกัน
นอกจากนี้ก่อนหน้านี้มีเหตุในพื้นที่ อ.ระแงะ โดยเมื่อเวลา 07.40 น.ของวันนี้ (31 ม.ค.) พ.ต.ท.วรพล สุขแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ระแงะ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิง จ.ส.อ.พรมมา สาครเจริญ เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4516 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ หน.ชุด ประจำจุดตรวจร่วมโควิด- 19 ตั้งอยู่ ม.7 ต.บาโงสะโต ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณสีข้างขวาจากกระสุนทะลุเสื้อเกราะ จากการสอบสวนทราบว่า ในระหว่างที่ จ.ส.อ.พรมมา กำลังนั่งจุดตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการคัดกรองโรค โดยด้านหลังเป็นฝั่งคูน้ำรกทึบตรงกันข้าม ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แฝงตัวอยู่ฝั่งคูน้ำตรงกันข้ามแล้วใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาด ยิงใส่แผ่นหลังของ จ.ส.อ.พรมมา จำนวน 1 นัด แล้วอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
- เดือดกลางวอล์กกิ้ง ปมขัดแย้งร้านบีบีกัน ควงมีด ควงปืน หมายเปิดศึก พลเมืองดีห้ามวุ่น หวั่นนทท.ถูกลูกหลง
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
- ชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ส่อเดือด! นักการเมืองรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัว ท้าชนแชมป์เก่า
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: