ประธานสภาทนายความจังหวัดตราด เข้าช่วยเหลือ ยายวัย 77 ปี ถูกอบต.บ่อพลอยเรียกเงินผู้สูงอายุคืน 83,000 บาท หลังยายมีคุณสมบัติต้องห้าม ไม่สามารถรับเบื้ยผู้สูงอายุ
(3 กุมภาพันธ์ 2564)ที่สำนักงานสภาทนายความจังหวัดตราด อ.เมือง จ.ตราด นางมยุรา เผ่าหอม อายุ 59 ปี นำเอกสารจดหมายของอบต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด เรื่องขอให้คืนเงินเบี้ยยังชีพ นางเงินกอง สุขปาน ที่ไม่มีสิทธิได้รับตามกฎหมาย ขอคำปรึกษากับต่อนายพิสิฏฐ์ สีกากี ประธานสภาทนายความจังหวัดตราด
นางมยุรา ให้ข้อมูลว่า นางเงินกอง สุขปาน อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นอาของตนเอง ถูกอบต.บ่อพลอย เรียกเงินเบี้ยผู้สูงอายุ คืน เป็นจำนวนเงิน 83,000 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี พ.ศ.2552 จนถึงเดือน พฤศจิกายน 2563 เป็นเวลา 140 เดือน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 เป็นฉบับแรก
และให้ชำระคืนภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือ แต่ตนเองก็ไม่ได้ชำระคืนแต่อย่างใด จากนั้นวันที่ 9 มกราคม 2564 ได้รับหนังสือจากอบต.บ่อพลอย เป็นครั้งที่สอง ให้คืนเงิน 83,000 บาท โดยหนังสือทั้งสองฉบับได้ระบุทิ้งท้ายหากไม่ชำระเงินคืน จะพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากนายพิสิฏฐ์ รับทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว ได้ทราบถึงปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น และรับเรื่องขอนางเงินกอง สุขปาน เอาไว้แล้วเบื้องต้นแล้ว แต่เนื่องจากนางเงินกอง ยังไม่ได้โดนฟ้องร้องแต่อย่างใด แต่หากนางเงินกอง ถูกทางอบต.บ่อพลอย ฟ้องร้อง ทางทีมทนายความจากสภาทนายความจังหวัดตราด พร้อมเป็นทนายให้ฟรี ตามนโยบาลของสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มอบหมายให้สภาทนายความทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าช่วยเหลือการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนในแต่ละจังหวัด ซึ่งส่วนตัวมองจังหวัดตราด น่าจะมีผู้สูงอายุอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกเรียกเงินคืน ที่ยังไม่ได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความจ.ตราด
จากนั้น นายพิสิฏฐ์ ได้เดินทางไปบ้านนางมยุรา เผ่าหอม ตำบลพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด พบนางเงินกอง สุขปาน เพื่อให้กำลังใจนางเงินกอง และชี้แจงถึงขั้นตอนการช่วยเหลือ พร้อมบอกว่านางเงินกองว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องการเรียกเงินคืน ซึ่งหากมีการฟ้องร้องขึ้น ทางสภาทนายความจังหวัดตราดพร้อมช่วยเหลือเต็มที่
ขณะนางมยุรา กล่าวว่า เมื่อ 30 ปี ที่แล้ว สามีของอา รับราชการเป็นตำรวจ สังกัดตชด.และเสียชีวิตในหน้าที่ ทำให้อาได้รับบําเหน็จตกทอด จากสามี มาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2549 เป็นต้นมา กระทั่งปี พ.ศ.2562 ลูกชายอา ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้อาต้องอยู่คนเดียวที่บ้านตาพลาย ต.บ่อพลอย มาอยู่กับตนเองที่บ้านหลังนี้
และเมื่อปีที่ผ่านมาอาป่วยเป็นเส้นเลือดตีบ ทำให้การเดินค่อนข้างลำบากกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงไป กระทั่งได้มีหนังสือมาให้ขอคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจำนวน 83,000 บาท ซึ่งตนเองมองว่า อาได้รับเงินเป็นเดือน แต่จะให้มาจ่ายครั้งเดียวทั้งหมด คงไม่ถูกต้อง หากอยากได้เงินก็ขอให้ไปฟ้องเอา เพราะไม่ใช่ความผิดของอาตัวเอง
สำหรับปัญหาการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของนางเงินกอง สุขปาน จำนวน 83,000 บาท คืนนั้น มาจากเนื่องจากนางเงินกอง สุขปาน ได้รับบำเหน็จตกทอด จากสามีแล้ว และมีลักษณะต้องห้ามได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ตามข้อ 6 (4) ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 คือ ผู้ที่ได้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียว จะไม่สามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้อีก
