จากกรณีความคืบหน้าคดีรุมโทรมหญิงสาวที่ อ.พัฒนานิคม ลพบุรี เมื่อเดือนกันยายน และตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ สภ.พัฒนานิคม ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่กลุ่ม วัยรุ่นผู้ก่อเหตุ จำนวน 12 คน รุมโทรมหญิงสาววัย 18 ปี ตามที่ทางด้านของพ่อของผู้เสียหายได้มีการเดินทางเข้าพบกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กรุงเทพฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ และหาแนวทางดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ โดยอ้างคดีไม่มีความคืบหน้า
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยตำรวจงานสืบสวน สภ.พัฒนานิคม ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณจุดที่คนร้ายก่อเหตุพบว่า จุดที่คนร้ายก่อเหตุรุมโทรม ในครั้งแรกอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ที่กระต๊อบกลางทุ่งนาตำบลดีลัง และครั้งที่ 2 ที่กระต๊อบกลางไร่มัน พื้นที่ตำบลดีรังหมู่ที่ 5 เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวได้มีการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่าสำหรับกระต๊อบที่ ผู้ก่อเหตุใช้เป็นสถานที่ในการลงมือรุมโทรมทั้งสองแห่ง เป็นพื้นที่ที่เจ้าของทำไว้เพื่อเอาไว้คอยมาเฝ้านา เฝ้าไร่ของตนเอง ซึ่งไม่ได้มีการหวงห้าม ปิดกั้นพื้นที่ไว้เป็นการส่วนบุคคลจึงมักทำให้มีกลุ่มวัยรุ่นแวะเวียนเข้ามายังบริเวณกระต๊อบที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง
ซึ่งจากการสอบถาม พ.ต.ท.อรงค์เดช สอาดบัว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม ยืนยันว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าเป็นลำดับ ที่สำคัญข้อมูลที่มีการแจ้งว่าคดีไม่มีความคืบหน้า ตนเองยืนยันว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก และตำรวจได้มีการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมกับมีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากลับผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พ.ต.ท.อรงค์เดช ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้น 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกผู้ก่อเหตุได้ก่อเหตุเมื่อ ช่วงต้นเดือนกันยายน 2563 ครั้งที่สองเกิดเหตุเมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 2563 แต่ผู้เสียหายมาดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งหลังจากที่ได้รับแจ้งความ ไว้ก็ได้มีการประสานให้ชุดสืบสวนเร่งรัดและติดตาม ผู้ก่อเหตุทั้งหมดในทันที พร้อมทั้งได้มีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุทั้งหมดฐานความผิดร่วมกัน ก่อเหตุลักษณะโทรมหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภริยาของตน
ขณะที่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าผู้ก่อเหตุ มีจำนวนทั้งสิ้น 12 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่จากการสอบปากคำจากผู้เสียหาย ยืนยันชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมด มีลักษณะพฤกติการณ์ในการก่อเหตุที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งตรงนี้เป็นรายละเอียดในส่วนของสำนวนการสอบสวน และแต่ละคนจะมีฐานความผิดที่ต่างกันออกไป เนื่องจากมีบางคนที่มีการกระทำความผิดซ้ำในช่วงเวลาเดียวกัน เช่นนายศุภกิจ (ขอสงวนอายุและนามสกุล) ที่มีการก่อเหตุครั้งที่ 1 มีเพศสัมพันธ์ในครั้งดังกล่าวจำนวน 1 ครั้ง และครั้งที่สองที่ก่อเหตุมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายถึง 3 ครั้ง
อย่างไรก็ตามสำหรับคดีที่เกิดขึ้นทางด้าน รองผู้กำกับสอบสวน ยืนยันว่าจะสามารถสรุปความเห็นสั่งฟ้องได้ช้าที่สุดไม่เกินสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้ตำรวจยังแนะนำให้ผู้เสียหายไปดำเนินการ ใช้สิทธิ์ในฐานะผู้เสียหายเพื่อเรียกร้องเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรมอีกช่องทางหนึ่งด้วยเช่นกัน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 64 พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ลงพื้นที่ สภ.พัฒนานิคม ลพบุรี เพื่อตรวจสอบสำนวนและความคืบหน้า ยืนยันตรวจ สภ.พัฒนานิคม ลพบุรีทำคดีข่มขืนหญิง 18 อย่างตรงไปตรงมา หากมีใครเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทุกคน หรือพ่อของน้องอ้างมีคลิปเกี่ยวกับมีนักการเมืองท้องถิ่น สท. เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก็ขอเพื่อจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างแน่นอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายแดง (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี พ่อค้าขายลูกชิ้นทอด ชาว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พาลูกสาวเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามคดีที่ลูกสาวถูกคนในหมู่บ้านเดียวกัน 11 คน ลวงไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า เพราะหนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็นถึง อดีตสมาชิกเทศบาล (ส.ท.) ในพื้นที่ ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม นั้น
ในวันนี้ ( 3 ก.พ.64) เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรถพล แก้วเขียว ผกก.สอบสวน ภ.จว.ลพบุรี ได้เดินทางไปที่ สภ.พัฒนานิคม เพื่อติดตามข้อมูลในคดีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.กริช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม พ.ต.ท.อรงค์เดช สอาดบัว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม และ พ.ต.ท.นิพนธ์ ศรีไพบูลย์ สว.สอบสวน เจ้าของคดี เข้าร่วมให้ข้อมูล
จากนั้น พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้เผยว่า คดีดังกล่าวมีความจริง ซึ่งขณะนี้ ผู้ก่อเหตุทั้ง 11 คน ได้ถูกฝากขังทั้งหมด และศาลให้ประกันตัวออกมา 10 คน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ขณะนี้ยังถูกขังอยู่ในเรือนจำกลางลพบุรี ซึ่งทั้งหมด 11 คน พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาหนักด้วยกันคือ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นลักษณะโทรมหญิง ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียอิสรภาพ ขณะที่พ่อของผู้เสียหายอ้างว่า มีนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งเป็นผู้ร่วมก่อเหตุด้วยนั้น จากสำนวนคำให้การไม่เคยปรากฏชื่อนักการเมืองคนดังกล่าวเลย อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่มีการสอบปากคำผู้เสียหายที่สอบไปถึง 3-4 ครั้ง ก็ไม่เคยมีคำให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.พัมนานิคมเลย นอกจากนี้พ่อผู้เสียหายก็ยังไม่เคยมาให้การกับพนักงานสอบสวนด้วยเช่นกัน ซึ่งก็จะเชิญมาสอบปากคำในรายละเอียดต่างๆ ที่กล่าวอ้างกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ และสื่อมวลชนในวันที่ 6 ก.พ.นี้ โดยหากมีใครเกี่ยวข้องกับคดีนี้เราก็ต้องเรียกตัวมาสอบสวนอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม อีกทั้งที่อ้างว่ามีคลิปในวันเกิดเหตุด้วยนั้น หากมีก็ขอให้นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย วันนี้ตนเองกำชับให้ทีมสืบสวนและพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหากผู้เสียหายเกรงว่าผู้ก่อเหตุที่ได้รับการประกันตัวออกมาจะมาข่มขู่ ก็ให้มาแจ้งต่อ ผกก.สภ.พัฒนานิคม ได้เพื่อจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปคุ้มครองและดูแล อีกทั้งคดีนี้เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงไม่สามารถยอมความกันได้ แม้จะอ้างว่ามีการเสนอให้เงินค่าเสียหายถึง 400,000 บาทและบอกว่าเป็นเรื่องสมยอมกันเอง รวมทั้งให้ถอนแจ้งความก็ตาม ด้าน นายพนม ปีจัตุรัส อดีต สท.เทศบาลตำบลดีลัง อ.พัฒนานิคม ที่มีชื่อเป็นผู้ก่อเหตุด้วยนั้น ได้เผยว่า จากเหตุดังกล่าวตนเองพอทราบเรื่อง แต่ไม่เคยเกี่ยวข้องและไม่ทำเรื่องอย่างนี้แน่ ทั้งนี้ ตนเองรู้จักกับพ่อผู้เสียหาย แต่ไม่ค่อยจะถูกกัน จึงเป็นไปได้ว่าพ่อผู้เสียหายจะโยงความผิดมาให้ ซึ่งหากทำให้ตนเสียหายก็คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป สำหรับในวันนี้ เจ้าหน้าที่จาก พม.จังหวัดลพบุรี ยังได้มาติดตามคดีดังกล่าวที่ สภ.พัฒนานิคม เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชน อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ ปคม.ก็ยังได้ประสานมากับทาง พ.ต.อ.กริช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม ถึงข้อมูลในคดีดังกล่าวอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: