รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ติดตามความคืบหน้าแผนพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน ติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดเรียบร้อยแล้ว สั่งเร่งเดินหน้าขยายทางวิ่งจาก 35 เมตร เป็น 45 เมตร หลังได้ผู้รับจ้างแล้ว คาดสถานการณ์การบินในประเทศและต่างประเทศจะเริ่มส่งสัญญาณดีในปี 2566
วันนี้(วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564) ที่ท่าอากาศยานหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางลงพื้นที่มอบนโยบายพร้อมติดตามความคืบหน้าแผนพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน พร้อมด้วย นายอุดร ออลสัน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ,นายจรุณ มีสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ,นายอภิสิทธิ์ อุบลโกมุท ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหัวหิน ,นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจน ผู้บริการกระทรวงคมนาคม ร่วมรับฟังบรรยายสรุปด้านผลการดำเนินงานปัญหาอุปสรรคของท่าอากาศยานหัวหิน รับฟังความคิดเห็นข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะ
ข่าวน่าสนใจ:
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ได้มาตรวจสอบความคืบหน้าแผนพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน ใน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1. โครงการซื้อพร้อมติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ EDS พร้อมสายพานลำเลียงสัมภาระห้องควบคุมและอุปกรณ์ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว 2.การติดตั้งระบบไฟส่องสว่างแนวรั้วพื้นที่เขตการบิน และ ส่วนที่ 3 คือ เทอร์มินอล ที่ได้จัดสรรงบประมาณในปี 2564 – 2565 จำนวน 250 ล้านบาท ในการขยายความกว้างของรันเวย์ จาก 35 เมตร เป็น 45 เมตร ส่วนความยาวของทางวิ่งยังเป็น 2,100 เมตร เท่าเดิม เพื่อรองรับเครื่องบินโบอิ้ง-737 หรือ แอร์บัส-320 ที่มีผู้โดยสารประมาณ 100 คนเศษ หรือมีระยะเวลาการบินประมาณ ไม่เกิน 4-5 ชั่วโมง จากประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ซึ่งในส่วนนี้ได้ผู้รับจ้างแล้ว วันนี้จึงได้กำชับคณะกรรมการที่กำกับดูแล ให้เร่งรัดผู้รับจ้างเข้ามาดำเนินการตามแผนงานวางไว้
ทั้งนี้มองว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะเมืองหัวหิน เป็นเมืองที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เห็นได้จากปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 7,000,000 คน ทำรายได้หลักถึง 43,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อดูวิเคราะห์ตัวเลขแล้วเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด มีโอกาสที่กรมท่าอากาศยาน จะทำแผนขยายสนามบินให้สามารถรองรับเที่ยวบินจากทั่วโลกได้ ซึ่งจะต้องขยายทางวิ่งให้ยาวขึ้น เป็น 3,000 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินทุกประเภท แต่จะต้องมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อยุติ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า จากการศึกษาของ สมาคมขนส่งทางอากาศ คาดการณ์ว่า การบินภายในประเทศจะกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ ประมาณปี 65-66 ส่วนระหว่างประเทศจะกลับเข้าสูภาวะปกติในปี 66-67 ซึ่งประเมินได้จากการคิดค้นวัคซีน โควิด-19 และกระบวนการป้องกันและรักษาพยาบาล ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตนก็มองว่ามีความเป็นได้ คาดว่าปี 2565 น่าจะเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น และปี 2566 น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
พร้อมย้ำว่า สถานการณ์โควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบกับแผนพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน แต่ก็ยอมรับว่าโควิด-19 ส่งผลกระทบกับแผนรายได้ ของกรมท่าอากาศยาน รายรับลดลง ในช่วงเดือน มีนาคม-เมษายาน ปี 2563 รายได้ลดลงเหลือ สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ จากนั้นก็เริ่มดีขึ้นจนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปลายปี จนกระทั่งมาถึงช่วงโควิด-19 ระลอกใหม่รายได้ก็ดิ่งลงไปเหลือสิบกว่าเปอร์เซ็นต์อีกรอบ อย่างไรก็ตามโครงการทุกอย่างที่วางแผนไว้จะยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อรองรับการสร้างรายได้จากท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของประเทศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: