นครพนม – เมียหมวดบอลแย้มเป็นนัยๆ เพชฌฆาตอาจยิงผิดตัว มีจยย.คล้ายกันหลายคัน หรือแชทไลน์คุยกับแฟนคนในค่าย ยอมกราบเท้าขอโทษนายถ้าไม่ใช่ต้นเหตุการตาย
จากกรณีมีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี ผู้บังคับหมวดดุริยางค์ ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม รวม 3 นัด เข้าที่บริเวณลำคอด้นขวา 1 นัด และรักแร้ขวา 2 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตที่ รพ.นครพนม ส่วนมือปืนหลังก่อเหตุอาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปทางด้านหลังค่าย เหตุเกิดเวลา 19.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ฯ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 หลังเกิดเหตุมีรายงานข่าวว่าคนร้าย ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบเพื่ออำพรางหน้าตาเข้ามาทางบริเวณด้านหน้าค่าย ที่อยู่ติดถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 (นครพนม-สกลนคร) จึงมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัว ซึ่งไม่พบรถ จยย.ต้องสงสัยแต่ประการใด จึงสันนิษฐานว่าเพชฌฆาตรายนี้ไม่ใช่คนภายนอก ตรงกันข้ามต้องเป็นคนที่อยู่ภายในค่าย เพราะรู้ช่องทางหลบหนีเป็นอย่างดี อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าบริเวณที่เกิดเหตุกำลังมีการซ่อมแซมระบบไฟฟ้า
ล่าสุด พ.ต.อ.ฉกาจ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.จีรุฏฐ์ พิมพา รอง ผกก.สืบสวน และ ร.ต.อ.(หญิง) จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม พร้อมพิสูจน์หลักฐานฯ เดินทางเข้าไปในค่ายพระยอดเมืองขวาง เพื่อเก็บข้อมูลวัตถุพยานบริเวณถนนหน้ากองร้อยสนับสนุนการช่วยรบ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ร้อย.สสช.ร.3 พัน.3) หมวดยานยนต์ฯ (มว.ยานยนต์ ร.3 พัน.3) และสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ มาประกอบคดีในการติดตามตัวคนร้าย
ต่อมา พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเช้าได้ประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน ตั้งประเด็นไว้ 3-4 ประเด็นคือ ชู้สาว ยาเสพติด การขัดแย้งส่วนตัว และประเด็นยิงผิดตัวหรือไม่ เนื่องจากประเด็นหลังสุดทางญาติได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ไว้ด้วยว่ารถ จยย.ที่ผู้ตายขับขี่ไปเหมือนกับรถ จยย.ของคนในค่าย 3-4 คัน จึงเป็นประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามได้
ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวต่อว่า เจ้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่สาเหตุทุกประเด็น ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนปมขัดแย้งภายในหน่วยงาน ได้สอบถามผู้บังคับบัญชาของหน่วยแล้ว เป็นเรื่องการลงทัณฑ์ทางวินัยและทางปกครองเล็กๆน้อยๆในหมู่ของข้าราชการทหาร ตำรวจ เป็นขนบธรรมเนียมในหน่วย ไม่น่าจะเป็นถึงขั้นรุนแรงที่จะปองร้ายเอาชีวิตกัน เพราะเป็นเรื่องระเบียบวินัยในหน่วยงาน
หลังจากเกิดเหตุคาดว่าคนร้ายใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปทางประตูด้านหลังค่าย ตรวจสอบแล้วเป็นประตูเข้า-ออกได้ตามปกติ เหมือนเป็นช่องทางลับอีกช่องทางหนึ่งหรือช่องทางธรรมชาติ ซึ่งสามารถเข้า-ออกได้ ส่วนการยิงในลักษณะไหนยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนเชิงลึกอยู่ว่าคนร้ายถนัดมือซ้ายหรือขวา
“จากการสอบสวนเบื้องต้นคนร้ายน่าจะมีคนเดียว ใช้รถจยย.เป็นพาหนะส่วนจะเป็นคนภายในหรือภายนอกอยู่ระหว่างสืบสวน ส่วนศพ ร.ท.รุ่งเฉลิมหรือหมวดบอล ได้ส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อผ่าเอากระสุนออกว่าเป็นชนิดไหนกันแน่ เบื้องต้นหลังตรวจที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ เป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะใช้ปืนลูกโม่ก่อเหตุยิง 3 นัด ที่ลำคอ 1 นัด รักแร้และใต้รักแร้อีก 2 นัด
ด้านการแกะรอยติดตามคนร้ายขอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานเชิงลึก น้ำหนักในการพุ่งเป้ายังไม่ตัดประเด็นไหนทิ้ง ก็จะต้องสืบสวนให้ครบทุกประเด็น ลึกๆก็ยังไม่ทราบจะมีอะไรอีกหรือไม่ ส่วนประเด็นขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาตามที่ญาติให้ข่าวน้ำหนักน่าจะน้อย “
“คนจะฆ่ากันได้มันต้องเคียดแค้นชิงชังอย่างจริงจัง อย่างเช่นว่าไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน สมมุติว่าคับแค้นศักดิ์ศรีเหยียบย่ำกันไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องการดำเนินการทางวินัยเล็กๆ น้อยๆ ไม่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญ ไม่อย่างนั้นผมคงโดนลูกน้องเล่นงานแล้ว เพราะไล่ออกไป 4-5 คน” พล.ต.ต.ธนชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตามคดีนี้ทางชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ชุดสืบสวน ภ.จว.นครพนม และชุดสืบสวนภาค 4 ขอนแก่น ก็ได้ลงพื้นที่มาสมทบ โดยได้แบ่งหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ตรวจสอบรถ จยย.ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุว่าไปตรงกับเป้าหมายคนใด รวมทั้งไทม์ไลน์ครั้งสุดท้ายของผู้ตายที่จะต้องเป็นข้อมูลสืบสวน เพื่อแกะรอยหาตัวคนร้ายต่อไป
ในวันเดียวกันเวลา 13.30 น. น.ส.กณิศฐ์ฐา พันธุ์สวัสดิ์ หรือจ๋า อายุ 32 ปี ภรรยาของหมวดบอลได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าถ้าพูดถึงสามีไปมีเรื่องขัดแย้งกับใคร ขอยืนยันว่ามีกับผู้บังคับบัญชาเพียงคนเดียว แต่ตนเองที่บอกกับตำรวจว่าคนร้ายอาจยิงผิดตัว เพราะรถจักรยานยนต์ที่สามีใช้นั้นมีเหมือนกันในค่ายหลายคัน และยังไม่ปักใจเชื่อในกรณีมีความขัดแย้งกับหัวหน้าหน่วยจนถึงขั้นฆ่าตาย
“ถ้าเป็นประเด็นด้านชู้สาว น.ส.จ๋าเผยว่าสามีเป็นคนคุยสนุกเข้าคนง่าย จึงมีลูกน้องและคนทั่วไปรักใคร่ อาจจะไปแซทไลน์พูดคุยกับแฟนของคนที่อยู่ในค่าย แล้วทึกทักว่าไปมีอะไรกับสามีตน ขอยืนยันตรงนี้สามีไม่ใช่คนเจ้าชู้ นอกจากเข้าใจผิดกัน และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ สิ่งที่ตนปรักปรำผู้บังคับบัญชาไปนั้น จะก้มกราบเท้าขอโทษทันที” น.ส.กณิศฐ์ฐาหรือจ๋ากล่าว
ส่วนศพของหมวดบอลหลังชันสูตรผ่าพิสูจน์หัวกระสุนปืนว่าเป็นชนิดใดแล้ว ทางญาติจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่กรุงเทพฯ
