ชัยภูมิ – หลังหลายฝ่ายเร่งยืนมือเข้าช่วยเหลือหมู่บ้านคนเลี้ยงช้างเก่าแก่มาแต่โบราณ บ้านค่ายหมื่นแผ้วเมืองชัยภูมิ ที่เคยเป็นค่ายฝึกช้างไว้ส่งกำลังเสริมไปสู้รบยามศึกสงครามให้กับกองทัพไทยมายาวนานจนชาติไทยเป็นเอกราชมาได้จนทุกวันนี้ จนปัจจุบันหลังหมดภาวะสงครามวิถีคนกับช้างที่นี่ต้องเปลี่ยนมาตั้งแต่เป็นหมู่บ้านคนเลี้ยงช้าง ตั้งเป็นคณะมากกว่า 6 คณะใหญ่แต่ละคณะมีช้างอยู่ในความดูแลจำนวนมากกว่า 10-30 เชือก เพื่อฝึกไว้จัดแสดงโชว์ความแสนรู้เพื่อประกอบเป็นอาชีพแทนมาจนปัจจุบัน และหลังจากเจอพิษโควิด-19 ระบาด รอบใหม่ครั้งนี้ต้องได้รับผลกระทบหนัก ไม่มีงานขาดรายได้แทบไม่มีเงินไปหาซื้ออาหารมาช่วยเลี้ยงน้องช้างจำนวนมากนับหลายสิบเชือกที่มีในหมู่บ้านในปัจจุบันทั้งหมดได้เพียงพอ จนล่าสุดเมื่อช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องมีการประกาศขายช้างทิ้งออกจากคณะไป 1 เชือก เพื่อนำมาเป็นทุนไว้จัดซื้ออาหารไว้เลี้ยงช้างทั้งหมู่บ้านให้รอดชีวิตในช่วงนี้ก่อนให้ได้ แต่ล่าสุดเรื่องเศร้าก็ยังตามมาซ้ำอีก!
( 12 ก.พ.64 ) ซึ่งล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เกิดโควิด-19 ระบาดรอบใหม่อีก มรสุมก็ยังตามมาซ้ำเติมหมู่บ้านคนเลี้ยงช้างต่อยังไม่หยุดอีกครั้ง เมื่อมีรายงานว่าล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ที่ผ่านมา มีช้างน้อยวัย 2 ปีเศษ ชื่อน้องพลายนำโชค ได้ล้มตายลงไปอีก 1 ตัว/เชือก (ช้างบ้านจะเรียกเป็นตัว ช้างป่าจะเรียกเป็นเชือก) ที่ช้างตัวนี้เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านคนเลี้ยงช้าง บ้านค่ายหมื่นแผ้ว ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ หลังเกิดภาวะโควิด-19 ระบาด ทางคณะช้างไม่มีงานขาดรายได้ ช้างน้อยตัวนี้น่าจะมีอาหารกินไม่เพียงพอและหิวโซและได้ไปหากินดินเค็มที่บริเวณริมแม่น้ำชีในชุมชนเป็นจำนวนมากเกินไป จนช้างน้อยตัวนี้มีอาการท้องร่วงถ่ายไม่หยุดและล้มป่วยลงมาตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ทางคณะช้างผู้เลี้ยงจึงส่งตัวจากชัยภูมิไปให้โรงพยาบาลช้าง ที่ จ.สุรินทร์ ช่วยรักษาอาการมานานหลายวันจนล่าสุดค่ำวานนี้น้องช้างน้อยวัย 2 ปีเศษ หรือน้องพลายนำโชค เพศผู้ ก็ได้เสียชีวิตลงแล้ว และทางตัวแทนคณะช้างได้เดินทางไปทำพิธีนำซากช้างตัวนี้กลับมาฝังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้ากับมรสุมเจอพิษโควิด-19 ระบาดหนักครั้งนี้กลับมาซ้ำเติมในหมู่บ้านคนเลี้ยงช้างที่ จ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้อีกครั้ง หลังต้องตัดใจขายช้างในคณะไป 1 เชือกให้กับสวนนงนุช ออกไปจากหมู่บ้านหลังเจอวิกฤติพิษโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ครั้งนี้ขึ้นมาได้ไม่นานในช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งในด้านการช่วยเหลือในปัจจุบันกระแสคนไทยไม่ทิ้งกัน หลังมีคนทราบข่าว ทั้งหน่วยงานต่างๆ ประชาชน ที่ทราบข่าวก็ต่างพากันเดินทางมาช่วยเหลือบริจาคให้อาหารในหมู่บ้านคนเลี้ยงช้างที่นี่กันต่อเนื่อง และทางหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาช่วยเหลือให้คำปรึกษาจนกำลังจะมีการจัดงานแสดงครั้งใหญ่ขึ้นในวันพรุ่งนี้ ระหว่าง 13-14 ก.พ.64 ที่จะใช้วันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ เพื่อให้ที่หมู่บ้านช้างแห่งนี้ มีการจัดกิจกรรมการจดทะเบียนบนหลังช้าง เพื่อที่จะช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจให้คนรู้จักช้างบ้านค่ายในวันที่ 13ก.พ.64 ที่จะถึงนี้ ที่ลานแสดงช้าง หรือลานหมื่นแผ้ว ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
แต่ก็ต้องมาเจอมรสุมหนักต้องมาเสียชีวิตของช้างน้อยวัย 2 ปีเศษในครั้งนี้ไปก่อน ขณะที่ นายทองล้วน พงษ์วิเศษวิเศษ ประธานชมรมคนรักษ์ช้างบ้านค่ายหมื่นแผ้วตัวแทนคณะช้างกว่า 6 คณะ ได้เปิดเผยเรื่องราวครั้งนี้อีก ว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นประธานก็ต้องแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับควาญช้างหรือเจ้าของน้องพลายนำโชค ช้างน้อยแสนรู้วัยเพียง 2 ขวบเศษ ที่ต้องมาจบชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอาการป่วยมาตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้ นำไปรักษากับสัตว์แพทย์ที่โรงพยาบาลช้างจังหวัดสุรินทร์ แต่ก็สุดยื้อน้องช้างต้องมาจบชีวิตลงอีกมาตั้งแต่ค่ำวานนี้ที่ผ่านมา
ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเกิดจากความอ่อนแอ หรือภูมิต้านทานน้อยสำหรับช้างที่มีอายุน้อย ด้วยนิสัยช้างน้อยจะชอบกินเล็กกินน้อยไม่ทั่วหากกินไม่อิ่ม และน่าจะไปหากินดิน เพื่อหาเกลือแร่ และคาดว่าน่าจะกินไปมากเกินไปจนเกิดท้องร่วงขึ้น จนหมดแรงล้มป่วยในครั้งนี้ขึ้นโดยยืนยันว่าไม่ใช่โรคติดต่อแต่อย่างใดแน่นอน ซึ่งโรคประเภทนี้จะเป็นกับช้างที่อายุยังน้อย คนเลี้ยงก็ต้องช่วยกันระมัดระวังให้มากขึ้น
โดยในวิถีชีวิตคนกับช้างหรือคณะช้างโชว์ ไม่ใช่ช้างเร่ร่อนออกขายอาหาร ตามทางถนนหรืองานประจำปี อย่างที่มีผ่านมา ในคณะช้างที่นี่เป็นช้างโชว์ ซึ่งประจำ และถูกว่าจ้างจากปางช้างในจังหวัดต่างๆ เช่นเชียงใหม่,ภูเก็ตหรือชลบุรี โดยควาญช้างเหล่านี้ จะมีความผูกพัน กันเปรียบเสมือน ลูก แท้ๆ ของตนเอง ในการ กินอยู่ อาบน้ำ แม้กระทั่ง ขณะเสียชีวิตไปแล้วโดยประเพณีโบราณ ในการตายของช้างน้อยครั้งนี้ก็มีแสดงถึงความสัมพันธ์เปรียบเสมือนครอบครัว จึงต้องจัดพิธีสวดพระอภิธรรมและพิธีฝังตามความเชื่อและประเพณีที่ทำต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และครั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องสะเทือนใจและเป็นเรื่องน่าเศร้ากับคณะหมู่บ้านช้างแสนรู้ เหมือนเป็นมรสุมที่ต้องเผชิญซ้ำหนักอีก หลังจากเจอสถานการณ์พิษโควิด -19 จนต้องอพยพกลับมาบ้าน ซึ่งในวันพรุ่งนี้13 ก.พ. ทางจังหวัดโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิจะมีการจัดพิธี จดทะเบียนบนหลังช้าง และมีการแสดง ความสามารถของช้างแสนรู้โชว์ พิธีกรรม ตามประเพณีคนกับช้างอีกจำนวนมากด้วย จึงอยากขอฝากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาให้กำลังใจมาเที่ยวชมช่วยเหลือช้างที่นี่ได้ต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 ระบาดจะคลี่คลายต่อไปด้วย
และล่าสุดด้าน นายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ ได้มีการ ประสาน ทางทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ เพื่อลงพื้นที่ ตรวจสุขภาพของช้างทุกเชือกและช่วยเหลือในการช่วยให้อาหารเสริมให้วิตามิน กับช้างน้อยทุกข์เชือกเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมา ทางจังหวัด อำเภอ เทศบาล ปศุสัตว์ อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการ ประชุม หารือ เพื่อหาแนวทาง การช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยารักษาโรค พื้นที่การแสดง เพื่อให้คณะช้างแสนรู้ บ้านค่ายหมื่นแผ้วได้มีการประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงควาญช้างและช้าง ให้คนและช้างที่นี่ให้อยู่ได้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดเช่นนี้ต่อไปให้ได้ก่อน ในส่วนกรณี ที่ช้างน้อยเสียชีวิต ก็ต้องรอผลตรวจเลือดออกมายืนยันอีกครั้งเพื่อที่จะได้หาแนวทางช่วยกันป้องกันไม่ให้ช้างเกิดล้มป่วยลงอีกต่อไปด้วย
