ตำรวจชุดอีโอดี เข้าทำลายระเบิดสองลูกที่วางอยู่ติดสวนผลไม้หลังเจ้าของอู่ซ่อมรถเข้าไปตัดไม้แล้วพบระเบิดซุกอยู่ในกระเป๋า ตำรวจคาดเจ้าของนำมาทิ้งเพราะกลัวความผิด จุดชนวนครั้งแรกไม่ระเบิด ต้องจุดซ้ำครั้ง 2 เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 18.30 นาฬิกา พันตำรวจโทสมพร จันทร์ภูงา สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ได้รับแจ้งจากนาย นรากร วิเศษศรี อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 20/4 หมู่ 3 บ้านแถวเนิน ตำบลชากบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง แจ้งว่า พบระเบิดจำนวนสองลูก ขอให้ไปตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงรายงาน พันตำรวจเอก กิตติพงศ์ พันธ์ศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย พร้อมชุดสืบสวน รุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ เก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบ
เมื่อไปถึง พบสถานที่เกิดเหตุ เป็นป่าละเมาะ อยู่ติดกับสวนเงาะของผู้แจ้ง พบมีกระเป๋าสะพายผ้าสีดำ สภาพเก่าภายในมีระเบิด จำนวนสองลูก จึงได้นำล้อยางจำนวนสามล้อมาวางล้อม
ต่อมา ร้อยตำรวจเอกสุรเดช มณีพิทักษ์ หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (ชุดอีโอดี) ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ มาถึง และได้เข้าไปตรวจสอบ นำระเบิดสองลูกออกมาจากกระเป๋า พบว่าเป็นระเบิดร้ายแรง สภาพขึ้นสนิมมีสลักอยู่พร้อมระเบิดได้ทันที จึงกันประชาชนให้ออกไกลจากพื้นที่ เพื่อเตรียมทำลาย ณ.จุดที่พบเนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และประสานขอรถน้ำจาก องค์การบริหารส่วนตำบลชากบก มาเตรียมพร้อมหากเกิดเพลิงลุกลามขึ้น
ด้าน ร้อยตำรวจเอก สุรเดช มณีพิทักษ์ บอกว่าระเบิดทั้งสองลูกที่พบ เป็นระเบิดชนิดขว้าง (ลข.) ชนิดเอ็ม 67 และ เอ็ม 19 เอ1 สภาพขึ้นสนิม ซึ่งสมัยก่อน จะใช้กับ อาสาสมัครและ หน่วยปฏิบัติการพิเศษสมัยสงคราม ปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้ว ภาษาบ้านเราเรียกว่าลูกเกลี้ยง อาจเป็นการโยนทิ้งเพื่อหนีการจับกุม หรือแอบมาวางไว้ ในช่วงที่มีการกวาดล้าง ซึ่งมีอันตราย มาก จึงต้องทำลายทิ้ง โดยใช้วิธีแรงดันน้ำทำลาย
นายนรากร วิเศษศรี บอกว่า เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ เดินเข้าไป เพื่อตัดไม้ มาทำโรงเก็บของ เดินเข้าไปก็พบกับถุงสีดำ ลักษณะเก่า แต่เห็นว่าภายในเหมือนมีของน่าสงสัย จึงลองเปิดดู ก็พบว่า เหมือนลูกระเบิด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ให้มาตรวจสอบ ซึ่งจุดที่พบระเบิด เป็นป่าละเมาะ ห่างจากบ้าน ของตนเองประมาณ 500 เมตร ไม่ทราบว่าเป็นของใคร
