ปราจีนบุรี – ช้างป่าอ่างฤาไนกระทืบชาวบ้านดับคาสวน จ.ปราจีนบุรี ลูกชายยังผวากลัวช้าง ส่วนนายอำเภอร่วมรดน้ำศพ
เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พ.ต.ท.จักรพล ใจเชื่อม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู ว่ามีคนถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตในสวนมะม่วง บ้านหว้าเอน ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชายอยู่กลางสวนมะม่วง สภาพศพ นอนคว่ำหน้าขา-แขนผิดรูป ทราบชื่อนายทวี จิตบุญชื่น อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.8 บ.หว้าเอน ต.มหาโพธิ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ใกล้ร่างผู้เสียชีวิตพบร่องรอยต้นมะม่วงฉีกขาดและพบรอยเท้าช้างเดินอยู่รอบบริเวณ
จากการสอบถาม นายสมเกียรติ เจริญสุข เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ช่วงเย็นมีคนบอกว่า พบช้างอยู่บริเวณป่าหลังวัด ทุกคนไม่ได้เอะใจ เวลาต่อมาได้ยินเสียงคนร้องเสียงดัง “โอ๊ย” คิดว่ามีคนอยู่อีกฝั่งข้างวัด และได้ยินเพื่อนบ้านว่า มีคนยังไม่กลับบ้าน กระทั่งญาติบอกว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ในสวนมะม่วงจึงพากันแจ้งกู้ภัยฯและตำรวจ คาดว่าผู้ตายน่าจะอยู่ในสวนมะม่วง ขณะเดียวกันเผชิญหน้ากับช้างป่าในสวนมะม่วง ผู้ตายอาจหนีไม่ทัน จึงถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิตในสวนมะม่วง
ข่าวน่าสนใจ:
นายภานุพงศ์ จิตบุญชื่น อายุ 58 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมายังไม่เห็นพี่ชายกลับบ้านจึงขับรถ จยย.มาดูที่สวนมะม่วง ตอนเห็นรถกระบะพี่ชายจอดอยู่คิดว่าพี่ชายยังอยู่ในสวน จึงตะโกนเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ และเดินหาในสวนมะม่วง กระทั่งพบพี่ชายนอนคว่ำหน้า ตามตัวเปื้อนดินแขนขาผิดรูปและพบรอยช้างและกิ่งมะม่วง จึงรู้ว่า พี่ชายเสียชีวิตจากการถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิตในสวนมะม่วง ต่อมา เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าฯอ่างฤๅไน ได้เดินทางมาแกะรอยช้างป่า คาดว่าน่าจะเป็นช้างพลายตัวเดียวที่ออกหากินบริเวณนี้
สำหรับการจัดงานศพ นายทวี จิตบุญชื่น อายุ 62 ปีอยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 8 ต.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยญาติจัดเตรียมศาลาวัดหว้าเอนเพื่อที่จะนำร่างของผู้เสียชีวิตมาบำเพ็ญกุศลที่วัดหว้าเอน แต่ศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลรอทำเรื่องขอศพออกจากโรงพยาบาลยาอภัยภูเบศร ชาวบ้านและพระคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการตายของนายทวี ทุกคนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าผู้เสียชีวิตจะถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตในสวนมะม่วง ไม่มีใครคาดคิดว่า ช้างจะอยู่บริเวณด้านหลังวัด ที่ติดกับป่ามะม่วงของผู้ตาย กระทั่งช่วงเย็นจึงทราบข่าวว่า ผู้ตายถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิต
นายสมพงษ์ อนุรีจันทร์ อายุ 57 ปี สัปเหร่อวัดหว้าเอน ที่เคยถูกช้างป่ากระทืบเฉียดตายมาแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กล่าวว่า 2 วันก่อน ที่นายทวีจะถูกช้างป่าทำร้ายเห็นช้างป่ามาอยู่ที่หน้ากุฏิวัดที่ตนอาศัยอยู่ ตนได้พูดบอกช้างว่าอย่าทำอะไรเลย น้ำในโอ่งก็มีกินตามสบาย จากนั้นช้างป่ากินน้ำในโอ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินจากไป กระทั่งพลบค่ำขณะที่ตนอยู่บนเขาได้ยินเสียงคนร้องเอะอะโวยวายดังลั่น ในใจคิดว่าต้องเป็นเสียงผู้ตายอย่างแน่นอน ซึ่งป่ามะม่วงอยู่ชายเขาห่างจากจุดที่ตัวเองอยู่ประมาณ 100 เมตร เวลาต่อมาเห็นช้างป่าเดินขึ้นมาบนเขา ตนกับแม่ชีตกใจพากันวิ่งหนีออกจากศาลา และพูดบอกว่า ไปทางอื่นเถอะอย่ามาทำอะไรเลย ช้างป่ายืนอยู่ข้างศาลาปฏิบัติธรรมแล้วเดินเข้าป่าหายไป ซึ่งนายอนุพงษ์ จิตบุญชื่น ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่าพ่อถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต อยู่ในสวนมะม่วงรู้สึกเสียใจและกลัวช้างมาก ไม่คิดว่า ช้างป่าที่เคยมาหากินในหมู่บ้านนี้ จะทำร้ายพ่อจนเสียชีวิต แม้ว่าตนเองจะไม่เคยเห็นตัวช้างแต่ก็กลัวช้างมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรยากาศที่วัดหว้าเอน นายชัยวรรณ นิยม นายอำเภอศรีมหาโพธิ เดินทางมาเป็นประธานรดน้ำศพ นายทวี จิตบุญชื่น อายุ 62 ปี ที่ถูกช้างป่าอ่างฤาไนทำร้ายเสียชีวิตด้วย หลังจากนั้น นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบพวงหรีดเพื่อเป็นเกียรติในงานศพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบพวงหรีดด้วย ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ รอง ผวจ.ลงพื้นที่และให้กำลังใจฝ่ายปกครอง กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จัดกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ออกแกะรอยช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้าน หลังเกิดเหตุยังไม่มีการพบช้างตัวดังกล่าว คาดว่า ช้างน่าจะหลบอยู่ในพื้นที่ขณะนี้ชาวบ้านหวาดกลัวช้าง ไม่กล้าออกไปไร่ทางญาติผู้เสียชีวิตจะตั้งบำเพ็ญกุศลศพผู้เสียชีวิต 3 คืน อยากฝากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร็ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใครรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต ล่าสด ทราบว่าพบช้างป่า 2 ตัว อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 2 กม.อยู่ในป่ายูคาลิปตัส ช้างป่าหลบอยู่ในป่าคาดว่า ไม่น่าจะใช่ช้างตัวที่ก่อเหตุ เป็นช้างป่ากลุ่มใหญ่ 50 ตัว ที่มาอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงนานแล้วและแตกฝูงออกมาหากินเพียงลำพัง 1-2 ตัว เจ้าหน้าที่ได้เร่งแกะรอยหาตัวช้างป่าที่ทำร้ายคนออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ลักขณา สีนายกอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: