พระนครศรีอยุธยา – สสส. จับมือ สช. และภาคีสุขภาพพระสงฆ์ จัดอบรมพระนิสิตชาวเมียนมา 50 รูป ดึงทักษะเด่นด้านภาษา ช่วยเป็นล่าม-ทำคลิป-ลงพื้นที่ รุกงานสร้างความรอบรู้สุขภาพช่วงโควิด-19 ระลอกใหม่ พร้อมให้กำลังใจแรงงานชาวเมียนมาสู้ต่อ ตั้งเป้า 6 พื้นที่เสี่ยง บางขุนเทียน-บางบอน-ภาษีเจริญ-บางแค-จอมทอง-หนองแขม
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มจร. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) และกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม ‘อบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาพระนิสิตจิตอาสา เพื่อสร้างเสริมฟื้นฟูสุขภาวะแก่แรงงานต่างชาติ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่’ โดยมีพระสงฆ์ พระนิสิต เข้าร่วม 50 รูป
พระเทพวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. อธิการบดี มจร. ระบุว่า มจร. ตระหนักดีว่าปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ เป็นเรื่องสำคัญ จึงได้หารือร่วมกับ สสส. สช. และภาคีสุขภาพพระสงฆ์ ถึงแนวทางความร่วมมือการสื่อสารและช่วยเหลือแรงงานเมียนมา ซึ่งมีมติเห็นชอบการดำเนินงานใน 4 ข้อ ดังนี้
1.สช.จะเป็นกลไกประสานหน่วยงานภาคีต่าง ๆ สนับสนุนให้พระนิสิตเมียนมามีบทบาทช่วยเหลือ
2.สสส.สนับสนุนการจัดอบรมพระนิสิตเมียนมาให้มีความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาพโดยเฉพาะการป้องกันโควิด-19
3.สสส. ThaiPBS องค์กรพัฒนาเอกชน ร่วมกับพระนิสิต สร้างเครือข่ายการสื่อสาร และผลิตสื่อ
4.ให้พระนิสิตเมียนมาช่วยสื่อสารความรู้ความเข้าใจต่อแรงงานเมียนมา ให้มีความรู้เกี่ยวกับโควิด-19 ขณะนี้พระนิสิตเมียนมา 50 รูป พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือด้านการสื่อสารสร้างความรู้ด้านสุขภาพและให้กำลังใจแรงงานชาวเมียนมาด้วยกันเป็นอย่างมาก
ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สช. เข้ามามีบทบาทในฐานะหน่วยงานกลางสานพลังความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงพระนิสิตชาวเมียนมา เพื่อช่วยเหลือด้านการสื่อสาร เป็นที่ปรึกษา (Counsellor) และผู้นำทางความคิด (Influencer) ให้แรงงานชาวเมียนมา อันจะเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญในการเฝ้าระวัง ช่วยเหลือ และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ได้หารือการทำงาน ร่วมกับ กทม. ซึ่งมีข้อสรุปบทบาทพระนิสิตเมียนมา 3 ข้อ คือ
1.ช่วยเป็นล่ามแปลภาษาสอบสวนโรคกรณีพบผู้ติดเชื้อ ด้วยการคุยสามสายและการร่วมทำ Timeline
2.ช่วยสื่อสารให้ความรู้การป้องกัน ดูแลสุขภาพกับแรงงานเมียนมา
3.ลงพื้นที่ให้กำลังใจ ข้อแนะนำ คำปรึกษา ช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวิต (อาหาร) ตลอดจนกิจกรรมด้านจิตใจ
โดยมีแนวทางการทำงาน คือ
1.พระนิสิตร่วมกันผลิตสื่อให้แรงงานเมียนมาเป้าหมาย โดยให้ความรู้ด้านโควิด-19 ผนวกกับความรู้ทางธรรมะ
2.ลงพื้นที่ที่มีแรงงานเมียนมาจำนวนมาก และพื้นที่วัดที่แรงงานเมียนมานิยมไปทำบุญ จำนวน 6 เขต ได้แก่ บางขุนเทียน (วัดพรหม) บางบอน ภาษีเจริญ (วัดรางบัว/วัดเมืองมะริ) บางแค (วัดสิงห์) จอมทอง(วัดสิงห์) หนองแขม (วัดหนองแขม)
3.เชื่อมกลไกการทำงานของเครือข่าย โดยร่วมกับมหาเถรสมาคมจัดประชุมออนไลน์กับวัดในพื้นที่
ส่วน ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. บอกว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเกิดขึ้นมากกับชาวเมียนมาในช่วงโควิด-19 ระลอกใหม่ สสส.ได้สนับสนุนจัดอบรมการผลิตสื่อที่จะช่วยสร้างความเข้าใจเรื่องโควิด-19 โดยเน้นผลลัพธ์ 2 ประการ คือ 1.สามารถผลิตเป็นคลิปวิดีโอสั้นเพื่อใช้สื่อสารได้ด้วยตนเอง และ 2.มีช่องทางการเผยแพร่ขั้นพื้นฐานทางสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ ยูทูบ เฟซบุ๊ก ให้พระสงฆ์สามารถเป็นที่พึ่งส่งต่อกำลังใจแก่แรงงานชาวเมียนมา ด้วยความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพ มาตรการการเฝ้าระวัง ควบคุมและป้องกันโรค
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: