ฉะเชิงเทรา – จ่อดำเนินคดี โรงแป้งมันสำประหลังแอบปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ “แควระบม” หลังรองพ่อเมืองแปดริ้วลงนามในหนังสือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ จากผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำทางห้องปฏิบัติงาน ที่ถูกนำส่งตรวจโดย สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมายืนยัน พบคุณภาพน้ำต่ำหรือเป็นน้ำเสียที่มีความสกปรกสูง
วันที่ 19 ก.พ.64 เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยถึงผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในลำรางทดตารัตน์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำคลองระบม ที่เชื่อมต่อไปยังคลองท่าลาดและแม่น้ำบางปะกง จากพระปลัดอาทร ปัญญาปทีโป อายุ 35 พรรษา 11 เจ้าอาวาสวัดท่าไม้แดง (แหลมเขาจันทร์) ตั้งอยู่พื้นที่ ม.3 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ว่าทาง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีหนังสือแจ้งกลับมาถึงยังชาวบ้านที่ได้เคยออกมาเคลื่อนไหวร้องเรียน
พร้อมทำหนังสือไปยื่นยังหลายหน่วยงาน ทั้ง อบต.เขาหินซ้อน ศูนย์ดำรงธรรม อ.พนมสารคาม และผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ผ่านทาง นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา รองผู้ว่าฯ เกี่ยวกับพฤติกรรมของโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังแห่งหนึ่ง ที่แอบต่อท่อระบายน้ำขนาด 10 นิ้ว และ 6 นิ้ว ออกมาจากบ่อบำบัดน้ำเสียบ่อที่ 9 ของโรงงาน และมีการปล่อยระบายออกมาสู่แหล่งน้ำสาธารณะในหมู่บ้าน (ทดตารัตน์)
นอกจากนี้ยังมีการแอบลักลอบฝังท่อขนาดประมาณ 4 นิ้ว ออกจากแปลงที่ดิน ซึ่งใช้เป็นแปลงปลูกหญ้าเนเปียของโรงงาน ซึ่งอยู่ภายนอกรั้วกำแพงของโรงงานปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำคลองระบมโดยตรงอีก 1 แห่ง ซึ่งผลจากการเก็บตัวอย่างน้ำที่ปลายท่อและในลำรางสาธารณะ โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13 (ชลบุรี) ศูนย์ควบคุมมลพิษ จ.ระยอง สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา อำเภอพนมสารคาม อบต.เขาหินซ้อน
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เขาหินซ้อน ตามคำสั่ง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำส่งไปตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เพิ่งออกมาล่าสุดนั้น พบว่าน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากทั้ง 2 จุด มีคุณภาพต่ำหรือเป็นน้ำเสียไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดจริง ตรงกันกับข้อมูลที่ชาวบ้านได้แจ้งร้องเรียนเข้าไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา และหลายหน่วยงาน
ซึ่งผลการตรวจคุณภาพน้ำพบว่า ตัวอย่างที่เก็บไปตรวจวัดทั้ง 2 จุด มีค่าพารามิเตอร์สำคัญ เช่น ค่าซีโอดี สารแขวนลอย ไนโตรเจนในรูปทีเคเอ็น น้ำมันและไขมัน มีค่าต่ำกว่าค่ามาตรฐาน หรือมีความสกปรกสูง ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างรุนแรง จึงได้ส่งผลการตรวจวัดดังกล่าวมาให้ทางอำเภอพนมสารคาม เพื่อให้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาดำเนินการ
เข้าแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 พ.ร.บ.ขุดดินถมดิน พ.ศ.2543 และระเบียบกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้รายงานถึงผลการดำเนินการให้แก่ทาง จ.ฉะเชิงเทรา ทราบด้วย ซึ่งหลังจากนี้ชาวบ้านจะได้ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีทางกฎหมาย ต่อทางโรงงานแป้งมันสำปะหลังแห่งนี้ต่อไป พระปลัดอาทร กล่าว
