นครพนม – หม้ายกระดังงาลนไฟยัน น้องก่อเหตุฆ่าฟันคอหนุ่มข้างบ้านไม่ใช่เรื่องชู้สาว เคยโดนเตะจนกรามหัก เชื่อเก็บแค้นรอชำระ
คืบหน้าคดีนายคูณมี ต้นโฮ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 207 หมู่ 2 บ้านนาคอกควาย ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม ใช้มีดพร้าขนาดความยาว 49 เซนติเมตร ก่อเหตุฟันที่ท้ายทอยนายณัชพล พรหมดี หรือเพชร อายุ 33 ปี ขณะเมาหลับคว่ำหน้าอยู่ในห้องนอนของนางหยาด เทพอ่อน อายุ 52 ปี หม้ายสาวกระดังงาลนไฟ เสียชีวิตคาที่ ก่อนจะนำมีดของกลางไปล้างคราบเลือดซุกไว้ที่บ้านที่อยู่ติดกัน แล้วหลบหนีไปซ่อนตัวที่หมู่บ้านใกล้เคียง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ ขณะนั่งซดเหล้าอยู่ศาลาริมทางท้ายหมู่บ้าน สารภาพมีความแค้นที่ผู้ตายมาเกาะเกะพี่สาวต่างบิดา และมีเรื่องบาดหมางกันมานานนับปี อาศัยช่วงคู่อริเมานอนหลับ หยิบมีดพร้าย่องไปฟัน 3 ครั้งจนตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบนางหยาดหญิงหม้ายขณะกำลังล้างคราบเลือดห้องที่เกิดเหตุ โดยเล่าว่าวันเกิดเหตุนั่งดื่มเหล้ากันอยู่หน้าห้อง จำนวน 6 คน จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยผู้ตายเข้ามานอนในห้อง และตัวเองก็นอนอยู่ข้างๆ ไม่ได้ปิดประตูห้องแต่อย่างใด หลับด้วยความเมานานแค่ไหนไม่รู้ กระทั่งตื่นขึ้นมาก็เขย่าตัวนายเพชรให้ลุกขึ้นกินข้าว แต่เห็นเลือดกระจายเต็มห้อง ตกใจต่อสิ่งที่เห็นรีบออกไปบอกเพื่อนบ้านมาดู และแจ้งผู้ใหญ่บ้านตามลำดับ
นางหยาดเล่าต่อว่าการที่นายคูณมีน้องชาย อ้างว่าไม่พอใจที่นายเพชรมาจีบตนนั้นไม่เป็นความจริง เพราะมีบ้านใกล้ชิดติดกัน เห็นมาแต่เล็กแต่น้อย นายเพชรผู้ตายบางครั้งก็เรียกตนว่าแม่หรือพี่สาวบ้าง ไม่มีเรื่องชู้สาวมาเกี่ยวข้องแน่นอน แต่ที่ผ่านมาทั้งสองเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน น่าจะเป็นสาเหตุนี้มากกว่า
ขณะที่นายธีระพล พรหมดี อายุ 40 ปี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย และเป็นคนหนึ่งที่นั่งล้อมวงดื่มเหล้ากัน เล่าว่านายคูณมีผู้ต้องหามีเรื่องชกต่อยกับผู้ตายประจำ สืบเนื่องจากทั้งคู่เวลาดื่มเมาเหล้าแล้วมักจะคุยโวใส่กัน จึงมีการลงไม้ลงมือกัน แต่นายคูณมีสู้แรงคนหนุ่มไม่ไหว จึงตกเป็นกระสอบทรายให้นายเพชรเตะเสมอ
นอกจากนี้นายธงชัย เหล่าบุ อายุ 45 ปี และ นายโกมินทร์ มูลตั้ง อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านก็ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมามานาน ล่าสุดประมาณ 3-4 เดือน นายเพชรผู้ตายวางมวยกับนายคูณมีอีกครั้ง และเตะนายคูณมีจนกรามหัก คาดว่าคงเก็บความแค้นไว้ในใจ รอจังหวะเหมาะๆเพื่อชำระแค้น กระทั่งเห็นนายเพชรคู่กรณีเมาหลับในห้องนางหยาด จึงย่องไปฟันคอจนหวิดขาด ส่วนศพนายเพชรได้นำไปเผาที่ป่าช้าแล้ว เพราะมีความเชื่อว่าผีตายโหงต้องรีบเผาก่อนเที่ยง
ด้านนางแพง ไตรยขันท์ อายุ 64 ปี มีศักดิ์เป็นป้าของผู้ตาย เปิดเผยว่ารู้สึกตกใจที่หลานชายถูกฆ่าตาย จะเป็นเรื่องใดนั้นไม่รู้จริงๆ แต่ทั้งสองมีเรื่องบาดหมางมาโดยตลอด
ในวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายคูณมีผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากนั้นก็นำตัวไปฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยไม่มีญาติมาติดต่อยื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด
