นครพนม – สาวปลูกดอกดาวเรือง ร้องนายอำเภอเมืองนครพนม ตรวจสอบผู้ใหญ่บ้านกลั่นแกล้ง เลือกปฏิบัติกล่าวหารุกที่ดินสาธารณะ
สืบเนื่องจาก นายเอกชัย ลิตะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านหนาด ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม มีหนังสือร้องเรียนลูกบ้านที่อยู่ในการปกครองของตนคือ นางดาวสวรรค์ พรหมศรีธรรม อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 162 หมู่ 2 บ้านหนาด ต่อนายอำเภอเมืองนครพนม โดยกล่าวว่านางดาวสวรรค์บุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ บริเวณจุดผ่อนปรนตลาดนัดไทย-ลาว ริมแม่น้ำโขงบ้านหนาด เมื่อกลางปี 2563
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
ล่าสุด วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 นางดาวสวรรค์ พรหมศรีธรรม ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายสมลักษ์ ยกน้อยวงศ์ นายอำเภอเมืองนครพนม เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายเอกชัย ลิตะ
ในหนังสือดังกล่าวนางดาวสวรรค์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ว่า ที่ดินที่ถูกผู้ใหญ่บ้านกล่าวหาว่าบุกรุกฯนั้น เดิมเป็นของปู่ย่าตายายตกทอดมาถึงรุ่นพ่อรุ่นแม่ โดยได้ครอบครองและทำประโยชน์อยู่ในที่ดิน ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวทำกินเรื่อยมา ต่อมาตลิ่งถูกน้ำกัดเซาะและท่วม บริเวณที่ปลูกพืชผักจึงทรุดหายไปกับสายน้ำโขง
กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป น้ำในแม่น้ำโขงลดลงจากการสร้างเขื่อนของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้พื้นที่ริมตลิ่งกลับคืนมาอีกครั้ง และสามารถปลูกพืชผักสวนครัวได้ดังเดิม ตนจึงเข้าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวเรื่อยมา โดยไม่มีหน่วยงานราชการหรือผู้ใด มาหวงห้ามหรือขับไล่ให้ตนออกจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าว จนถึงต้นปี 2563 ตนได้ปลูกดอกดาวเรืองสำหรับเก็บไปถวายพระ และเพื่อความสวยงามของบริเวณจุดผ่อนปรนตลาดนัดไทย-ลาว ปรากฏว่ากลางปี 2563 นายเอกชัย ลิตะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านหนาด ได้ไปร้องเรียนกับอำเภอเมืองนครพนม ว่า ตนบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์
นางดาวสวรรค์กล่าวต่อว่า ถัดจากที่ดินที่ตนปลูกดอกดาวเรืองไปไม่ถึง 10 เมตร มีพรรคพวกของนายเอกชัย ปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอยู่บนที่ดินสาธารณประโยชน์อย่างถาวร แถมล้อมรั้วแสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน นายเอกชัยกลับไม่ดำเนินการแจ้งให้พรรคพวกของตนรื้อถอนอาคารฯดังกล่าวออก และก็ไม่ได้ร้องรียนกล่าวหาพรรคพวกของตนเองบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์แต่อย่างใด ทั้งที่การปลูกสร้างอาคารนั้น ใช้ประโยชน์ในลักษณะกีดขวางทางสาธารณะ ตนจึงมีหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายเอกชัย ลิตะ ในฐานะผู้ใหญ่บ้านผู้ปกครองท้องที่ ซึ่งมีหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามมาตรา 27 (1) (2) (4) (6) และ (10) แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย
ทั้งนี้ นายพงศ์พันธ์ คำมั่น หรือผู้ใหญ่เลื่อน อายุ 63 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านหนาด ต.บ้านกลาง เปิดเผยที่ดินบริเวณนี้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันมานาน ภายหลังถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งจมหายไป ต่อมาเกิดการทับถมของดินตะกอน กลายเป็นดินงอกขึ้นมาใหม่ ชาวบ้านจึงหวนมาใช้ประโยชน์ปลูกพืชผักไว้บริโภคถ้าเหลือก็ขาย หากผู้ใหญ่บ้านต้องการจะป้องกันที่ดินผืนนี้ไว้ ก็ควรปรึกษาหารือกับลูกบ้านก่อน ไม่ใช่ร้องเรียนไปทางอำเภอเลย หากจะต้องส่งที่ดินผืนนี้ให้รัฐ ก็ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างถาวรอื่นๆ ที่ปลูกรุกล้ำที่สาธารณประโยชน์ด้วย ไม่ใช่เลือกปฏิบัติเช่นนี้
เช่นเดียวกับ นางสีกา สาวงศ์ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 บ้านหนาด ต.บ้านกลาง ผู้ที่มีสิ่งปลูกสร้างถาวรอยู่ติดกับดินแปลงปลูกดอกดาวเรืองของนางดาวสวรรค์ เผยว่าไม่เห็นใครมีหนังสือขับไล่ตน ต่างจากนางดาวสวรรค์ที่ถูกร้องเรียนจากผู้ใหญ่บ้านเพียงคนเดียว ในส่วนตัวเชื่อว่านางดาวสวรรค์ถูกกลั่นแกล้ง ไม่รู้ว่านายเอกชัยรับใบสั่งมาจากใครให้เลือกปฏิบัติเยี่ยงนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: