หนุ่มนักศึกษาปี 4 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่าน กรุงเทพมหานคร ถูกรถพ่วง 22 ล้อ ทับ จนได้รับเจ็บอาการสาหัส ขณะขี่จักรยานยนต์ เหตุเกิดบริเวณถนนศรีนครินทร์ ขาเข้าสมุทรปราการ บริเวณหน้าศูนย์ดีแท็ค หมู่ 6 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 8 มีนาคม 2564 พ.ต.ต.จิรวัฒน์ อ่องสา สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วงทับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณถนนศรีนครินทร์ ขาเข้าสมุทรปราการ บริเวณหน้าศูนย์ดีแท็ค หมู่ 6 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียนหัวพ่วง 83-2447 สระบุรี ทะเบียนหางพ่วง 52-6448 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมถนนที่บริเวณท้ายรถพ่วงพบร่างนายสุรัติ แกล้วกล้า อายุ 25 ปี นักศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นถนนในสภาพมีบาดแผลตามลำตัวและใบหน้าหลายแห่งได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ให้การปฐมพยาบาลก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า เอ็มสแลซ สีดำ ทะเบียน 1 ขญ 7603 กรุงเทพมหานคร ล้มคว่ำอยู่บนฟุตบาธ สภาพพังยับเยิน
นายพงษ์พัฒน์ แสนหาร อายุ 27 ปี คนขับรถพ่วงคันดังกล่าวได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับพ่วงคันดังกล่าวจากศรีนครินทร์มุ่งหน้าเข้าสมุทรปราการ ขณะที่ขัยรถผ่านจุดที่มีการปิดถนนเพื่อซ่อมแซมอยู่กลางถนนและเปิดให้รถวิ่งผ่านฝั่งซ้ายได้เพียงเลนเดียว ตนก็ได้ขับเข้ามาในช่องทางบังคับด่านซ้าย หลังจากที่ขับรถผ่านจากจุดนั้นมาก็รู้สึกว่ารถมีมีความหนืดขึ้นมา ตนจึงพยายามมองหาที่จอดเพื่อที่จะลงมาดูรถว่าเป็นอะไร เนื่องจากในช่วงที่รถเกิดผิดปกติฟุตบาทมันสั้นจึงจอดไม่ได้ ตนจึงขับรถเลยจากจุดดังกล่าวมาประมาณ 200 เมตร จนมาถึงศูนย์ขายโตโยต้า ซึ่งมีฟุตบาทที่ยาว จึงจอดรถและลงมาดูก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นร่างของคนเจ็บนอนติดอยู่ในร่องล้อหลังหางพ่วงข้างซ้ายท่อนขาโผล่ออกมาด้านนอก จึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าขณะที่รถพ่วงคันดังกล่าวได้ขับมามาในช่องซ้ายโดยไม่ทันสังเกตว่าผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในช่วงล้อหลังหางพ่วงจึงถูกเบียดกับฟุตบาทจนล้มก่อนที่ร่างของผู้บาดเจ็บที่กระเด็นเข้าในร่องล้อหลังของห่างพ่วง ส่วนรถถูกอัดกับฟุตบาทจนพังยับเยินกระเด็นขึ้นไปอยู่บนฟุตบาธส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งยังรู้สึกตัวอยู่จึงได้ใช้มือจับหูแหนบด้านล่างเอาไว้ส่วนลำตัวถูกล้อหลังของห่างพ่วงทับลากไปกับพื้นถนนจึงทำให้รถเกิดการหนืดเนื่องจากลำตัวของผู้บาดเจ็บขวางล้ออยู่ และถูกลากไปกว่า 200 เมตรก่อนที่รถจะหยุดจนทำให้ร่างของผู้บาดเจ็บเป็นบาดแผลฉกรรจ์ไส้ทะลักออกมาด้านนอกกระดูกหักหลายท่อน อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
