สงขลา-อบจ.สงขลารวมพลังร่วมคณะทัวร์ทางไทสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีเกาะกำเหียง เตรียมความพร้อม 1 อำเภอ 1 แหล่งท่องเที่ยวหวังสร้างเศรษฐกิจฐานรากเพื่อชุมชนเข้มแข็งแบบยั่งยืน
การท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาเริ่มมีสีสันอีกครั้งเมื่อทีมอบจ.สงขลา นำโดยนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายกฯ นายปรีชาพงศ์ วงศ์พระจันทร์ ส.อบจ.เขตอำเภอสทิงพระ นายโยธิน ทองเนื้อแข็ง ส.อบจ.เขตอำเภอกระแสสินธุ์ ร่วมคณะทัวร์ทางไท โดยนายวิชาญ ช่วยชูใจ ภายใต้กิจกรรม “วันเดียวเที่ยวสงขลา” ช่วงวันที่ 7 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวใหม่เกาะกำเหียง เกาะกางทะเล ซึ่งอยู่ในเขตตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมคณะ พานักท่องเที่ยวกว่า 100 คน เที่ยวชุมชนริมทะเลสาบสงขลา กิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวทะเลสาบสงขลา เที่ยวชมวิถีพื้นบ้านของชาวสงขลา ล่องคลองรี ไปเกาะกำเหียง ชิมอาหารเที่ยงและอาหารพื้นบ้านจากคาบสมุทรสทิงพระ ลงเรือชมเกาะกำเหียง เกาะกระ ชมเกาะสี่เกาะห้า เกาะรังนก
การท่องเที่ยวในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ มีความน่าสนใจที่หลากหลายมิติ คาบสมุทรที่ถูกห้อมล้อมด้วยทะเลอ่าวไทยและทะเลสาบสงขลา รวมถึงความเป็นเมืองเก่าที่มีร่องรอยแห่งอารยธรรมให้ศึกษามากมาย และที่ตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ เขามีกิจกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ภายใต้โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากการท่องเที่ยวชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ ม.3 และ ม.4 ซึ่งมีศักยภาพและจุดแข็งในการจัดทำแพล่องในทะเลสาบสงขลา
ไฮไลท์ของกิจกรรมล่องแพอยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมบรรยากาศของทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะเกาะกำเหียง และเกาะทม ซึ่งอยู่ในทะเลสาบสงขลาที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวบ้านริมทะเลสาบสงขลา ทั้งการพายเรือหาปลา ยกยอ รวมถึงอีกหลากหลายวิถีท้องถิ่นที่น่าสนใจ
การนำร่องท่องเที่ยวของเครือข่ายต่าง ๆ จังหวัดสงขลา ในครั้งนี้นอกจากประโยชน์ทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวโดยชุมชนคืออาชีพเสริมที่เกิดจากการจัดสรรทรัพยากรในพื้นที่ให้เกิดมูลค่าและประโยชน์สูงสุด นำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดี สร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและความเข้มแข็งกลับคืนสู่ชุมชนอีกด้วย
