นครพนม – ว.การบินฯ วิกฤตหนัก ร้องหมอสงค์ช่วยเหลือด่วน คณะบุคคลไม่แก้ปัญหา ผลักภาระให้ออกโดยปราศจากความผิด ส่วนผู้กระทำผิดลอยนวล
จากกรณี วิทยาลัยการบินนานาชาติ(ว.การบินฯ) มหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) มีข้อพิพาทระหว่างกัน อันเป็นผลพวงมาจากอดีตผู้บริหารละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และขาดธรรมาภิบาล ด้วยการหักเงินรายได้ของ ว.การบินฯ ไปจัดสรรให้กับหน่วยงานอื่น รวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้ ว.การบินฯ มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย
ภายหลังคณะบุคคลที่ถูกแต่งตั้งตามคำสั่งที่ 103/2563 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เข้าบริหาร มนพ.แทนอดีตผู้บริหารที่ถูก set zero (เซ็ทซีโร่) ก็มีการตั้งคณะอนุกรรมการทำการศึกษา และเสนอความคิดเห็นในการรวม และยุบเลิกฯ ทำให้บุคลากร ว.การบินฯ ลุกฮือคัดค้าน เพราะเหมือนเป็นการพยายามยุบฯ เพื่อกลบความผิดของอดีตผู้บริหาร จึงมีคำถามตามมาว่าคณะบุคคลเข้ามาแก้ไขปัญหา หรือมาล้างความผิดให้อดีตผู้บริหารกันแน่ โดยโยนภาระให้กับบุคลากร ว.การบินฯ ขณะที่คนผิดลอยนวล
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม ทหารพรานสนธิกำลังยึดยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด! ตรวจพบฝิ่นดิบกว่า 3 กิโลกรัม ริมแม่น้ำโขง
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
ล่าสุด กลุ่มบุคลากร ว.การบินฯ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย (ส.ส.นครพนม 13 สมัย) เพื่อนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่า สาเหตุเกิดจากอะไร และต้องนำตัวผู้กระทำผิด ซึ่งน่าจะมีมากกว่า 1 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งแพ่งและอาญา
น.ท.สรวุฒิ พรหมทอง ในฐานะประธานกลุ่มบุคลากร ว.การบินฯ เปิดเผยว่า”วันนี้พวกเราเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งในปัจจุบันพวกเรายังไม่ได้รับเงินเดือนค่าจ้างของเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แต่อย่างใด โดยที่ไม่ได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ไม่ได้มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางด้านมหาลัยนครพนม จึงเกิดความสับสนและข้อมูลที่เราได้รับมา ว่า ในเดือนมกราคมที่มีการพิจารณาว่าจะยุบวิทยาลัยการบินนานาชาตินั้น หรือข้อมูลนั้นจะเป็นความจริง ทำให้ในวันนี้พวกเราได้เดินทางมาขอความเป็นธรรม ขอความกรุณาจากผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดนครพนม คือท่านนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ให้ท่านช่วยหาความเป็นธรรมให้กับบุคลากรและศิษย์ของวิทยาลัยการบิน ที่ได้รับผลกระทบกันทุกๆคน
เนื่องจากว่าปัญหาที่มันเกิดขึ้นที่อ้างว่าไม่มีงบประมาณ ให้ชะลอการดำเนินงานทุกอย่างไว้ก่อน ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของทางบุคลากรหรือนักศึกษาวิทยาลัยการบินนานาชาติ แต่มันเกิดจากการผิดพลาดของการบริหารงบประมาณ ซึ่งมันสืบเนื่องมาตั้งแต่งบประมาณปี 2560 โดยปกติแล้วงบประมาณที่เราได้รับจากรัฐบาล จะเรียกกันว่างบอุดหนุน อีกส่วนหนึ่งก็คือเงินรายได้ ที่มาจากค่าเล่าเรียนของศิษย์ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้โดยปกติแล้วจะต้องหักค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนของวิทยาลัยการบิน เพื่อที่จะนำไปสนับสนุนการเรียนการสอนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ทางมหาวิทยาลัยนครพนม ได้ออกหลักปฏิบัติมาเพื่อที่จะหักเงินในส่วนทั้งสองส่วนที่กล่าวมาข้างต้น และมีการหักไปก่อนที่จะมีการมาดำเนินการในส่วนของค่าใช้จ่ายสนับสนุนการเรียนการสอน จึงส่งผลกระทบให้การเรียนการสอนเป็นไปด้วยความยากลำบาก ติดขัดและไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ในการที่จะของบประมาณในแต่ละครั้ง ก็มักจะถูกปฏิเสธจากทางผู้บังคับบัญชาว่าไม่มีงบประมาณให้ชะลอทุกอย่างไปก่อน ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของพวกเรา น่าจะเกิดความผิดจากการบริหารงบประมาณที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ทราบข้อมูลจากนั้นผู้สื่อข่าวเมื่อครั้งที่แถลงเรื่องงบประมาณเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ว่าในการบริหารงบประมาณที่ผ่านมา ได้มีการร้องเรียนจากอดีตผู้บริหารของวิทยาลัยการบินนานาชาติ ถึงการบริหารงานที่ไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใสของผู้บริหารมหาวิทยาลัยนครพนม โดยได้มีการโยกงบประมาณจากเดิม โดยระเบียบมหาวิทยาลัยนครพนม ว่าด้วยเรื่องงบประมาณบัญชี และได้รับของวิทยาลัยการบินนานาชาติปี 2561 สามารถดึงงบประมาณไปใช้ได้เพียง 10 % แต่เกิดการลงมติกันว่าในส่วนของมหาวิทยาลัยนครพนมสามารถมาใช้งบประมาณได้ถึง 45 % ทั้งในส่วนของงบประมาณและในส่วนของเงินรายได้
ยกตัวอย่างเช่นของศิษย์การบินค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 2,200,000 บาท หักไป 10 % ก็ประมาณ 440,000 บาท ต้นทุนที่เราจะสามารถนำมาใช้ได้เหลือแค่เพียง 1,300,000 บาท ซึ่งมันไม่สะท้อนถึงงบประมาณต้นทุนการผลิตศิษย์การบินที่แท้จริง ซึ่งโดยปกติแล้วศิษย์การบินจะต้องใช้งบประมาณต่อคนโดยรวมแล้วประมาณ 1,800,000 บาท นั่นก็หมายความว่าเราขาดทุนไปแล้วเกือบ 500,000 บาทต่อคน ศิษย์การบิน 100 คนเราก็จะขาดทุนไปเป็นหลักหลายสิบล้านบาท เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมทางมหาวิทยาลัยนครพนมถึงใช้เป็นข้ออ้างว่าทางวิทยาลัยการบินบริหารขาดทุน เพราะจริงๆแล้วเราโดนหักไปตั้งแต่แรกหรือตั้งแต่ยังไม่ได้งบประมาณเลยด้วยซ้ำ”
ด้าน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย หรือ ส.ส.นครพนม 13 สมัย กล่าวว่า “วันนี้ก็มีหนังสือร้องเรียนจากคณะทำงานกลุ่มบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนสิทธิประโยชน์ของบุคลากรวิทยาลัยการบินนานาชาติ มหาลัยนครพนม ซึ่งก็ส่งมาให้ผมโดยตรงไปที่ประธานคณะกรรมการติดตามงบประมาณ ไปถึงคุณมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย และ คุณเชาวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย เพื่อที่จะเข้าสู่สภาต่อไป
ตามที่กระผมทราบว่าผู้ที่มายื่นหนังสือในวันนี้ ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่รวมถึงท่านคณบดี ครูบาอาจารย์ นักเรียน นักศึกษาการบินที่เข้ามาพบผม ในสายที่มารับก็มีทั้งคุณอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย และคุณวัชรินทร์ เจียวิริยบุญญา ตัวแทนชาวนครพนม วันนี้ผมได้รับเรื่องไว้แล้วก็จะดำเนินการต่อไป สรุปสั้นๆในวันนี้ เรื่องที่หนึ่งเป็นเรื่องความไม่เป็นธรรมที่คณะการบินจะถูกยุบ แต่เรื่องสำคัญเลยก็คือวิทยาลัยการบินไม่สมควรที่จะถูกยุบ เหตุผลเพราะว่าถ้าวิทยาลัยการบินถูกยุบไปแล้วความผิดที่เกี่ยวกับคณะ ที่ทางฝ่ายบริหารมหาลัยนครพนมได้กระทำไว้ก็จะหายไปหมด ซึ่งหลายคนก็พูดว่ามันเป็นความผิดที่อยู่ใต้พรม แต่จริงๆแล้วมันคือความผิดที่อยู่บนพรม
ประการสำคัญเท่าที่ผมทราบงบประมาณของมหาวิทยาลัยจะตั้งไว้ตั้งแต่ปี 63-64-65 ก็มาทราบภายหลังจากท่านส.ส.มนพร เจริญศรี ว่างบประมาณไม่ได้ถูกตั้ง เพราะว่าตกไป ปัญหาคือทำไมคณะอื่นถึงไม่ตก ทำไมวิทยาลัยการบินถึงตก ทำให้วิเคราะห์ได้ว่าการกระทำเยี่ยงนี้เหมือนกับเป็นการซ่อนเร้นว่า จะยุบคณะการบินให้ได้ โดยหลักการว่าทุกอย่างไม่พร้อม
สืบเนื่องจาก นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) ในขณะนั้น ออกคำสั่งที่ 103/2563 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 อาศัยตามความในมาตรา 51 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ.2562 ให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม และคณะกรรมการสภาฯ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน พ้นจากตำแหน่งทั้งหมด พร้อมแต่งตั้งคณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม โดยคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย 1.นายสุเมธ แย้มนุ่น ประธานกรรมการ 2.รศ.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ 3.รศ.เจษฏ์ โทณะวณิก 4.รศ.กำจร ตติยกวี 5.รศ.กิตติชัย ไตรรัตน์ศิริชัย และ 6.นางอรสา ภาววิมล เป็นกรรมการ รวม 6 คน
การโล๊ะอดีตผู้บริหาร มนพ. จึงเป็นความหวังของคณาจารย์และชาวจังหวัดนครพนม ที่ต้องการเห็นมหาวิทยาลัยของตนกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่นานวันเข้ากลุ่มคณะบุคคลกลับนำผู้ที่เคยถูกเซ็ทซีโร่มานั่งในตำแหน่งสำคัญๆ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่ามาเพิ่มปัญหามากกว่ามาแก้ปัญหา โดยเฉพาะ ว.การบินฯ น่าจะเป็นการสับขาหลอก เอาบุคคลที่มีส่วนร่วมกระทำผิดมานั่งหัวโต๊ะในการศึกษาแนวทางของ ว.การบินฯ และก็เสนอให้ยุบเพื่อลอยแพบุคลากรเกือบ 100 ชีวิต ทั้งๆที่พวกเขาเหล่านั้นไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ขณะรายงานข่าวมีการให้บุคลากร ว.การบินฯ เซ็นหนังสือลาออกด้วยตนเอง หรือจับสลากว่าใครจะอยู่หรือจะไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ได้มีการเปิดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงให้สื่อมวลชนกรณีการใช้งบประมาณของวิทยาลัยการบินนานาชาติ(ว.การบินฯ) โดยช่วงหนึ่งมีคณะทำงานตอบข้อซักถามสื่อมวลชนว่า “การนำเงินคณะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนครพนม จะนำไปใช้อะไรก็ได้ฯ” ต่อมาบุคลากร ว.การบินฯ บอกว่าตอนนี้การบินเดือดร้อน ก็ขอให้มหาวิทยาลัยฯ เอาเงินคณะอื่นมาช่วยก่อน ก็มีคณะทำงานตอบกลับว่า “ต้องใช้ตามระเบียบ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยจะเอาไปใช้อะไรก็ได้” แสดงว่าคำตอบทั้ง 2 คำตอบนั้น กลุ่มคณะทำงานต้องการแถลงข่าวเพื่อปกป้องคนที่นำเงิน ว.การบินฯไปเท่านั้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: