ปทุมธานี แม่ค้าผักร้องสื่อช่วย ถูกขโมยรถจักรยานยนต์ ตำรวจบอกคงไม่ได้คืน วอนผู้พบเห็นช่วยแจ้ง สภ.คูคต ด้วย
วันที่ 12 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวนลินี หาญทนงค์ อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับผู้สื่อข่าวในจังหวัดปทุมธานี ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ช่วยเหลือในกรณีที่รถจักรยานยนต์ของตนเองถูกโจรกรรมหายไปจากหน้าหอพักในคืนวันที่ 2 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
นางสาวนลินี เปิดเผยว่า ตนเองและสามี มีอาชีพขายผัก และได้เช่าห้องพักอาศัยอยู่ที่หอปรีชา เลขที่ 260 ม.3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยในวันเกิดเหจุ ตนเองและสามีขายผักเสร็จแล้วก็ออกจากตลาดไปแวะกินข้าว และักลับเข้าหอพักในเวลาประมาณ 22.00 น.และได้จอดรถไว้หน้าหอพัก ทั้งนี้ตนเองมาอยู่ที่หอพักนี้ได้ 2-3เดือนแล้ว ซึ่งตามปกติปกติจะจอดด้านในหอพัก แต่วันนั้นด้านในรถจอดกันเต็มจึงจอดไว้หน้าหอแทนโดนทำการล็อกคอรถไว้แล้วก่อนจะขึ้นหอพักไปพักผ่อน
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 03.30 น.เช้ามืดวันที่ 3 มีนาคม 2564 ตนเงและสามีได้ได้ลงมาจากห้องพักเพื่อที่จะไปตลาดค้าขายตามปกติ แต่เมื่อลงมาก็พบว่ารถจักรยานยนต์ ยามมาฮ่า รุ่น m sajaz สีน้ำเงินเทา ทะเบียน 8กธ –3310กทม.ของตน ได้หายไปเสียแล้ว จากนั้นตนเองได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และจากการดูกล้องวงจรปิดกล้องสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ โดยคนร้ายมารถเก๋งสีดำไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับวน 1 รอบ จากนั้นก็มีคนร้ายลงมาจากรถเก๋งคันดังกล่าว โดยรถร้ายใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็นำรถจักรยานยนต์ของตนออกไปได้ ทั้งนี้ทั้งรถเก๋งและรถจักรยานยนต์ของตนขับตามกันออกไปทางด้านถนนพหลโยธินเข้าลงมือโดย1ในคนร้ายลงมาจากรถยนต์เก๋งใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีจึงสามารถขโมยรถไปได้และขับขี่ออกไปทางถนนพหลโยธิน
นางสาวนลินี กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนเองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ สิงหา สีหาชารี ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูคต ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำเอกสารการลงบันทึกประจำวันไปยื่นกับบริษัทรถ ที่ตนเองมาร้องขอให้สื่อช่วยเหลือในวันนี้ ก็เพราะอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายให้ได้ อีกทั้งตนไม่อยากให้คนร้ายพวกนี้ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับสุจริตชนคนทำมาหากินคนอื่นอีก ตนเองเข้าใจในความเดือดร้อนของคนที่ถูกขโมยรถเพราะครอบครัวตนก็เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ซึ่งรถคันนี้ได้งวดมาแล้ว 3 ปี เหลืออีกเพียงแค่ 6 เดือน ก็จะส่งหมดแล้ว แต่รถเราก็มาถูกโจรกรรมไปเสียก่อน และที่สำคัญคือความรู้สึกของเราที่เดือดร้อนเพราะทรัพย์สินหาย แต่ตำรวจกับช้คำพูดว่า รถไม่ได้คืนหรอก รู้ตัวคนร้ายแต่จับไม่ได้เพราะว่าไม่มีรูปพรรณที่แน่ชัด ซึ่งเราก็เสียใจอยู่แล้วกับสิ่งที่ถูกกระทำ แต่ต้องมาเจอกับคำพูดแบบนี้อีก แทนที่จะให้กำลังใจกันบ้าง จึงขอวิงวอนผ่านสื่อมวลชน ว่าผู้ใดพบเห็นคนร้าย หรือรถจักรยานยนต์ของตนขอความกรุณาช่วยแจ้งมาที่ สภ.คูคต ด้วย จะขอบพระคุณอย่างสูง
ขุนพล ไพโรจน์..รายงาน
