นครพนม – คลังจังหวัดนครพนมไม่หยุดแค่นี้ !! เร่งสอบสวนเอาผิดร้านธงฟ้า รีดหัวคิวโครงการเราชนะ ชาวบ้านเจ้าของบัตรโดนด้วย
วันที่ 23 มีนาคม 2564 นางสุธิษา จารุเมธาวิทย์ คลังจังหวัดนครพนม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่คลังจังหวัดนครพนม บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลจังหวัดนครพนม ที่ ค.163/2564 เข้าตรวจค้นร้านค้าโชวห่วยชื่อร้านวงษ์พาณิชย์ เลขที่ 49/1 บ้านนาแค หมู่ 8 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เจ้าของร้านคือนางคำจันทร์ คำเงิน อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นร้านค้าที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการธงฟ้า รับแลกซื้อสินค้า บัตรประชารัฐ และโครงการเราชนะ ที่รัฐบาลออกมาตรการมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
ต่อมาพบการกระทำผิดของร้านโชวห่วยดังกล่าว แอบฉวยโอกาสรับแลกขึ้นเงินสดจากประชาชนที่ได้รับสิทธิ์แทนการแลกซื้อสินค้า พร้อมหักหัวคิวร้อยละ 10 % โดยจะมีการเหมาจ่ายล่วงหน้า และเก็บบัตรลูกค้าไว้รูดเป็นเงิน เชื่อว่าทำมานานแล้ว มีทั้งลูกค้าประจำและขาจร ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามมาตรการของรัฐบาล นอกจากนี้ยังตรวจยึดเอกสารหลักฐานในการกระทำความผิดหลายรายการ พร้อมมีการตรวจสอบพบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของประชาชน ที่มีชาวบ้านนำมาใช้สิทธิ์ จำนวน 393 ใบ จึงตรวจยึดเป็นหลักฐานนำมาสอบสวนขยายผล พิจารณาเอาผิดตามกฎหมาย
ข่าวน่าสนใจ:
เบื้องต้นในการดำเนินคดี ทางคลังจังหวัดนครพนม ได้มีการสอบสวนสรุปข้อมูลหลักฐานเสนอไปยังกระทรวงการคลัง พิจารณาความผิดเพื่อนำหลักฐานเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุที่ สภ.ท่าอุเทน โดยข้อหาหลักจะมีการแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของร้าน คือ ฐานความผิดฉ้อโกง รวมถึงพิจารณาความผิดทางแพ่งให้ชดใช้ตามวงเงินที่เกิดความเสียหาย ในช่วงที่มีการกระทำผิด ประมาณการว่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
ซึ่งคดีนี้เบื้องต้นได้เพิกถอนสิทธิ์ร้านค้านี้ออกจากโครงการ ส่วนคดีอาญาและแพ่ง หากทางร้านยินยอมชดใช้เงินคืนก็สามารถยอมความได้ เพราะทางภาครัฐไม่มีเจตนาจะเอาผิดหากมีการชดเชยเงินคืน แต่ต้องเพิกถอนสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมโครงการ ส่วนชาวบ้านที่ไปใช้สิทธิ์จะมีการพิจารณาตามเหตุผล และพยานหลักฐาน ซึ่งอาจจะได้รับคืนสิทธิ์ภายหลัง หากการสอบสวนแล้วเสร็จ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาดำเนินคดี กับทางร้านที่กระทำผิดด้วย
นางสุธิษา จารุเมธาวิทย์ กล่าวว่า คลังจังหวัดนครพนมฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ ให้ใช้สิทธิ์ตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ให้การช่วยเหลือ และห้ามบุคคลที่เป็นร้านประกอบการฉวยโอการแลกขึ้นเงินสดเพื่อเรียกหัวคิว หากตรวจสอบพบจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ทั้งเอาผิดอาญาข้อหาฉ้อโกง รวมถึงเรียกชดเชยเงินคืนทางแพ่ง ฝากย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการทุกราย ขอให้ปฏิบัติตามระเบียบเคร่งครัด อย่าฉวยโอกาส เพราะหากถูกดำเนินคดี มีโทษสูงสุดทั้งจำทั้งปรับ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: