ฉะเชิงเทรา – ฮีโร่ตัวจริง หนุ่มใบ้ช่วยเป็นหูตาแทนชาวบ้านในการติดตามคนร้าย ก่อนถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ทำตำรวจปิดล้อมจับกุมโจรปีนบ้านได้สำเร็จ ด้านผู้นำชุมชนเผยแม้มีร่างกายเป็นผู้พิการ แต่ทางด้านปฏิภาณไหวพริบและจิตสาธารณะนั้นกล้าหาญยิ่งนัก ขณะที่เจ้าตัวนั้นยังมีความสามารถในการสื่อสารที่พออ่านออกเขียนได้พร้อมการแสดงท่าทางกาย แต่ไม่สามารถสื่อสารด้วยวาจาได้
วันที่ 23 มี.ค.64 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายณัฐพล อ่อนนิ่ม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีคนร้ายซึ่งเป็นคนเร่ร่อน ตกงานมาจากในพื้นที่อื่น เข้ามาก่อเหตุพยายามลักทรัพย์ของชาวบ้านภายในหมู่บ้านอัจฉรา ซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนวัดประตูน้ำท่าไข่ แต่เจ้าของบ้านได้ออกมาพบเห็นเสียก่อน
ข่าวน่าสนใจ:
ในขณะที่คนร้ายกำลังปีนต้นมะม่วงขึ้นไปอยู่บนกำแพงรั้วบ้านคอนกรีต และกำลังจะก้าวเดินเหยียบขึ้นไปบนหลังคากันสาดหน้าบ้านเพื่อขึ้นไปยังชั้น 2 ของตัวบ้านพัก หลังเจ้าของบ้านออกมาพบ จึงทำให้คนร้ายนั้นรีบกระโดดลงไปจากกำแพงรั้ว และวิ่งหลบหนีไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน ก่อนที่จะแอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในป่าริมทางระหว่างถนนเข้าซอยในหมู่บ้านและรั้วกำแพงของโรงเรียน เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ นายกิติพงษ์ นันทสุมาลย์ หรือนายปุ๊ก อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/110 ม.1 ต.ท่าไข่ ซึ่งเป็นใบ้และคอยช่วยเหลือพระบิณฑบาตและทำงานภายในวัดประตูน้ำท่าไข่ เดินทางออกมาจากบ้านพักเพื่อกลับไปนอนยังที่วัดพอดี ในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 มี.ค.64) โดยที่นายกิตติพงษ์ หรือปุ๊ก ซึ่งเป็นผู้พิการทางการพูดนั้นกลับมีปฏิภาณไหวพริบดี
ทันทีเมื่อได้เห็นคนร้ายหรือคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านอย่างผิดสังเกต และมีท่าทางพิรุธ จึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือติดตามถ่ายภาพของคนร้ายเอาไว้โดยตลอด ตั้งแต่คนร้ายออกมาจากภายในซอยแคบๆ ข้างรั้วกำแพงบ้านของผู้เสียหายที่ถูกปีนเข้าไปแล้ว ยังติดตามถ่ายคลิปภาพของคนร้ายมาจนถึงในป่าหญ้าสลับกับป่าละเมาะข้างทาง ซึ่งอยู่ไกลออกมาประมาณ 40 เมตร จึงทำให้เห็นรูปพรรณ และหน้าตาของคนร้ายได้อย่างชัดเจนจากคลิปภาพที่ถูกถ่ายไว้
และได้นำภาพมาแจ้งแก่ตนพร้อมด้วยเจ้าของบ้านให้ทราบ ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยที่นายปุ๊ก ยังสามารถติดตามคนร้ายไปจนพบเห็นว่าคนร้ายได้วิ่งหลบหนีข้ามจากป่าหญ้าจากทางหมู่บ้าน ก่อนที่จะปีนข้ามกำแพงโรงเรียนไปยังอีกด้านหนึ่งของป่า เพื่อหลบหนีการจับกุมและซ่อนตัวจากทางเจ้าหน้าที่ ตนจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งแก่ทางนักการภารโรงของโรงเรียน ให้เปิดไฟและเปิดประตูให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปค้นหาและกดดันจนคนร้ายต้องปีนกลับไปซ่อนตัวยังภายในป่าตามเดิม
โดยที่คนร้ายติดอยู่ภายในวงล้อมของทางเจ้าหน้าที่เป็นเวลานานถึงกว่า 2 ชม. โดยได้หลบเข้าไปนอนแอบสงบนิ่ง ในลักษณะนอนราบกับพื้นอยู่ภายในโพรงหญ้า ที่ขึ้นรกปกคลุมสูงท่วมศีรษะไปทั่วบริเวณ จนเจ้าหน้าที่เดินเท้าระดมค้นหาอยู่เป็นเวลานาน พร้อมกับใช้ไม้ทิ่มไปตามป่าหญ้าไปทั่วบริเวณ แต่กลับไม่พบตัว ก่อนที่จะหยุดทำการค้นหาและปิดล้อมพื้นที่เอาไว้
จากนั้นจึงได้พยายามหาทางกดดันคนร้ายด้วยวิธีการต่างๆ ต่อมาหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนำโดย พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจและหน่วยกู้ภัยปิดล้อมพื้นที่เอาไว้เป็นเวลานาน จึงได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนเฝ้าคอยสังเกตการณ์อยู่บนรั้วกำแพงของโรงเรียน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าประมาณ 4-5 เมตร ได้ยินเสียงหายใจของคนร้าย ที่คาดว่าอาจจะเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า
จากการที่อดข้าวอดน้ำมาเป็นเวลานาน เพราะตกงานและไม่มีเงินติดตัว ทั้งยังต้องวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ หลังจากได้ก่อเหตุบุกรุกและพยายามลักทรัพย์ จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ลงไปค้นหาและพบตัวคนร้าย จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมชาย มาดกลาง อายุ 39 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ หนุ่มคนงานก่อสร้างที่ตกงานมาเป็นเวลานานถึงกว่า 3-4 เดือนแล้ว
จึงได้เดินทางเร่ร่อนมาจากในกรุงเทพฯ และเข้ามายังในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะได้เข้าไปก่อเหตุปีนเข้าบ้านของชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันนี้ ภายในซอย 8 มาก่อนแล้ว 1 ครั้งเมื่อประมาณ 5 วันก่อน แต่ทางเจ้าของบ้านออกมาพบตัวเสียก่อน จึงยังไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป และเมื่อคืนวานนี้จึงได้หวนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้งยังภายในหมู่บ้านเดิม แต่ยังก่อเหตุไม่สำเร็จ และถูกปิดล้อมจับกุมตัวได้ในที่สุด นายณัฐพล กล่าว
ด้านนายสมเกียรติ เพียรพิพิธจันทร์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/1 ม.1 ต.ท่าไข่ เจ้าของบ้านที่ถูกคนร้ายปีนเข้าไปเมื่อคืนที่ผ่านมา เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ภายในบ้านพร้อมด้วยภรรยาและบุตรสาว โดยที่ภรรยานั้นอยู่ที่ชั้น 2 ของตัวบ้านแบบสองชั้น โดยตนนั้นนั่งดูคลิปวีดีโอผ่านทางช่องยูทูป อยู่ที่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน แต่ได้ยินเสียงแมวที่เข้ามาอาศัยอยู่ภายในบ้านและตนได้เลี้ยงไว้ ส่งเสียงร้องขู่อย่างผิดปกติ
จึงได้เดินออกมาดู และพบเห็นเงาดำของคนร้ายที่กำลังปีนเดินข้ามจากรั้วกำแพง เพื่อขึ้นไปเดินที่ด้านบนหลังคากันสาดที่คลุมออกมายังชานหน้าบ้านพอดี จึงได้ส่งเสียงร้องถามว่าเข้ามาทำอะไร จากนั้นคนร้ายจึงได้รีบปีนกำแพงลงไปทางต้นมะม่วงข้างรั้วบ้าน เพื่อหลบหนีออกไปจากซอยแคบๆ ข้างกำแพง จากนั้นตนจึงได้วิ่งติดตามออกมา ก่อนที่จะมาพบกับนายปุ๊ก คนใบ้ดังกล่าว ที่ได้พยายามร้องบอกแก่ตน พร้อมแสดงท่าทางของคนร้ายให้ทราบ
ก่อนที่นายปุ๊ก จะใช้โทรศัพท์กดโทรแจ้งไปยังหมายเลข 191 โดยให้ตนเป็นคนพูดคุยแทน เพื่อแจ้งให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ซึ่งต้องขอขอบคุณทาง พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และชื่นชมต่อทางเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ได้เร่งนำกำลังมาร่วมค้นหายังในที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพียงไม่ถึง 5 นาที หลังจากแจ้งเหตุไปแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาถึงยังในที่เกิดเหตุทันทีก่อน 2 นาย พร้อมด้วยทีมอาสาสมัครจากหน่วยกู้ภัยฯ ในพื้นที่ นายสมเกียรติ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: