กระบี่-นร.รุ่นพี่โหดราดซีม่ารุ่นน้องวัย 9 ขวบจนพุพองทั้งร่าง ด้านครูไม่ยอมพาส่ง รพ. จนพี่ต้องขอยืมโทรศัพท์โทรหาแม่ให้นำส่ง รพ.
วันที่ 24 มี.ค.64ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางจิตตนา มาชอุ่ม อายุ 51 ปี บ้านอยู่ในตัวอำเภอเขาพนม ได้คอยดูแลลูกชายวัย 9 ขวบ ที่ได้นำตัวออกมาจาก โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอเขาพนม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำกินนอน มารักษาตัวที่ รพ.เขาพนม เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา หลังจากลูกชายมีบาดแผลพุพองไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่อวัยวะเพศมีน้ำเหลืองไหลตลอดเวลา ปวดแสบปวดร้อนอยู่ตลอด
จากการสอบถามทราบว่า ผู้บาดเจ็บ ชื่อ ดช.ภูผา (สงวนนามสกุล) อายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 ขณะนี้แพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวด พร้อมทั้งล้างบาดแผลพุพองตามร่างกายที่มีตั้งแต่ขาลำตัวไปจนถึงใบหน้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และหนักสุดที่อวัยวะเพศ ซึ่งมีพี่ชายวัย 10 ขวบ และพี่สาวอายุ 11 ขวบ คอยดูแลไม่ห่าง เนื่องจากทางแพทย์ให้นอนดูอาการต่อและจะเข้ามาดูเพื่อรักษาต่อ
นางจิตตนา เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นลูกเล่าว่า เกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 21 มีค.ที่ผ่านมา โดยลูกตนทั้ง 3 คน เรียนอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนกินนอนแบบประจำ โดยลูกชายคนเล็กอยู่ชั้น ป.2 ได้ถูกรุ่นพี่ ที่เป็นพี่เลี้ยง 2 คน เรียนชั้น ป.5 และชั้น ม.4 ทำโทษเนื่องจากลูกไม่ยอมออกกำลังกาย ใช้ยาซีม่าราดไปตามร่างกาย 6 ขวด จนลูกตนดิ้นทุรนทุราย ทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจเข้ามากระทืบซ้ำจนมีอาการปวดที่ศีรษะ ต่อมาวันรุ่งขึ้นได้ไปแจ้งครูประจำชั้น แต่ครูบอกว่าไม่ต้องไปหาหมอ ให้ไปห้องพยาบาลและรับยาทาสีชมพูมาทาพร้อมบยาแก้ปวด แต่อาการหนักขึ้นเพราะแผลเริ่มพุพองขึ้นเรื่อยๆ จนวันนี้พี่ชายและพี่สาวของน้องที่เรียนอยู่ ได้มาเห็นก็เลยไปหาช่างทำประตูที่เข้ามาซ่อมประตูโรงเรียน ขอโทรศัพท์ติดต่อมาที่ตนว่าน้องคนสุดท้องมีอาการบาดเจ็บหนักจากการที่ถูกรุ่นพี่ทำร้าย ตนจึงพร้อมด้วยสามี ได้เดินทางไปที่โรงเรียน แต่ก็ไม่พบครู จึงขอทาง รปภ.ของโรงเรียนนำลูกออกมาส่ง รพ.เขาพนมเพื่อรักษาตัว ซึ่งขณะนี้ลูกต้องทรมานอย่างมาก
นางจิตตนา ยังระบุอีกว่า การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก แต่ตนได้ติดต่อถามไปยัง รอง ผอ.ก็บอกว่าจะโทรกลับมาเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอแค่อยากให้ทางโรงเรียนออกมารับผิดชอบ และชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร และพี่เลี้ยงสามารถทำกับรุ่นน้องอย่างรุนแรงแบบนี้ได้หรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้พิการได้เลยทีเดียว หลังจากนี้ตนก็จะรอแพทย์ออกใบรับรอง และเดินทางไปแจ้งความเอาผิดต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: