ชัยภูมิ – หลังมีการปิดหีบเลือกตั้งชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิและสมาชิกฯ ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ แชมป์เก่าหลายสมัย จากตระกูลดังสายพรรคการเมืองดังเพื่อไทย และเศรษฐีหลายพันล้านเก่าแก่เมืองชัยภูมิ ”เกียรติก้องก้องชูชัย” ครั้งนี้ต้องพ่ายยับถูกคู่แข่งสายแข็งจากทายาทตระกูลนักธุรกิจดังหลักหมื่นล้าน 1 ใน 5 เสือส่งออกสิ่งทอไทย ผู้สมัครหน้าใหม่ประกาศขอชิงเก้าอี้อ้อนขอคะแนนชาวชัยภูมิขอตอบแทนคุณแผ่นดินที่ตัวเองได้มาลงทุนในพื้นที่มานานกว่า 20 ปี เปิดศึกช้างชนช้างเอาชนะแชมป์เก่าหลายสมัยในครั้งนี้ไปได้แบบขาดลอย !
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อช่วงเวลา 22.05 น.วันที่ 28 มี.ค.64 ที่ผ่านมา หลังที่ จ.ชัยภูมิ มีบรรยากาศวันเลือกตั้งนายก-สมาชิกสภาเทศบาลฯในทั่วทั้งจังหวัดในส่วนของจังหวัดชัยภูมิ ครั้งนี้มีรวม 36 แห่ง/เทศบาลฯ รวมมีผู้สมัครชิงนายกฯ รวม 83 คน(มีได้เพียง36คน/แห่ง) ส่วนสมาชิกสภาเทศบาลมีผู้สมัครทั้งหมดรวม 874 คน(มีสมาชิกรวมได้ไม่ถึงครึ่ง) และโดยเฉพาะในเขตพื้นที่น่าจับตาศึกช้างชนช้างในครั้งนี้แข่งขันกันดุเดือดมากสุดของชาวเมืองชัยภูมิ ก็คือในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีผู้สมัครชิงนายกฯรวม 3 คน จาก 3 ทีม ที่จัดทีมลงมาสู้ศึกกันในครั้งนี้คึกคักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในรอบกว่า 10 ปี
โดยมีผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ในครั้งนี้รวม 3 คน มีได้ 1 ตำแหน่ง สามารถมีสมาชิกสภาเทศบาลได้รวม 18 คน ใน 3 เขตเลือกตั้ง(มีได้เขตละ 6 คน )มีผู้สมัคร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชัยภูมิ หรือ สท.ครั้งนี้รวม 47 คน(มีได้เพียง 18 คน)
มีหน่วยเลือกตั้งรวม 47 หน่วย ใน 25 ชุมชน เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีผู้ใช้สิทธิ์ครั้งนี้ประมาณ 27,000 คน หลังปิดหีบเลือกตั้งในช่วงเวลา 17.00 น.วันที่ 28 มี.ค.64 ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิทั้งหมดครั้งนี้สูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 60 % และเริ่มมีการนับคะแนนไปแล้วทั้งหมดอย่างไม่เป็นทางการ
และไม่น่าจะมีผลเปลี่ยนแปลงต่อผลคะแนนให้กับผู้ชนะอันดับหนึ่ง ในครั้งนี้ได้แล้วในเบื้องต้นมีผลคะแนนรวมนำขาดลอยมาเป็นอันดับที่หนึ่งของผู้สมัคร หมายเลข 3 นายธีวรา วิตนากร อายุ 56 ปี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ชัยภูมิ และทายาทเจ้าของธุรกิจดังยักษ์ใหญ่ติด 1 ใน 5 เสือ ธุรกิจส่งออกสิ่งทอของประเทศไทย บริษัท ไฮ-เทค ชัยภูมิ แอพพาเรล จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจโรงงานเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพื่อการส่งออก หลักหมื่นล้านบาทของประเทศไทย ที่มีเครือข่ายตั้งฐานโรงงานทั้งในจังหวัดชัยภูมิ ในพื้นที่นับหลายพันคน และในประเทศไทยและในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงอีกเป็นจำนวนมากนับหมื่นคน ที่ครั้งนี้ขออาสาเข้ามาตอบแทนคุณแผ่นดินคืนให้กับชาวเมืองชัยภูมิ หลังตัวเองมาลงทุนในจังหวัดชัยภูมิและประสบความสำเร็จทางธุรกิจตัวเองในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มานานกว่า 20 ปี ในสโลแกนเมืองชัยภูมิต้องเปลี่ยนในนาม”ทีมกลุ่มรวมพลังเมืองชัยภูมิ พร้อมส่งลูกทีมลงสมัครครบทุกเขตทั้ง 18 คน ที่มีหวังตามเข้าสภามาได้อีกจำนวนมากเกินครึ่ง ล่าสุดมีคะแนนอย่างไม่เป็นทางการรวมกว่า 8,423 คะแนนแล้ว
ตามมาด้วยอันดับที่สอง หมายเลข 2 นายบรรยงค์ เกียรติก้องชูชัย อายุ 53 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ แชมป์เก่าหลายสมัยมาตั้งแต่ปี 2547 มาจนถึงสมัยล่าสุดที่มีฐานการเมืองทั้งเครือญาติมีน้องชายเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ ส.อบจ.ในพื้นที่ อ.เมืองชัยภูมิ ทายาทเศรษฐีหลายพันล้านเครือธุรกิจเจริญฟาร์มมาซีเก่าแก่ชื่อดังของเมืองชัยภูมิ มายาวนานเช่นกัน ที่ครั้งนี้ส่งลูกทีมครบทุกเขต 18 คน เพื่อรักษาแชมป์เก่าให้ได้อีกครั้งอย่างเต็มที่ และครั้งนี้มาในนามทีมชื่อทีม”กลุ่มลูกแม่น้อย”ซึ่งเป็นมารดาของตนเอง ที่ขอเข้ามาสู้ศึกเลือกตั้งสานงานต่อ ซึ่งล่าสุดมีผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการกว่า 5,902 คะแนน
และตามท้ายมาด้วยอันดับสาม หมายเลข 1 คือ นายสานนท์ ด่านภักดี อายุ 60 ปี อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ และยังมีสายฐานการเมืองจากพรรคเพื่อไทยบางส่วนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ให้การสนับสนุน ลงสมัครในนามกลุ่มทีมสานนท์เปลี่ยนเทศบาล ที่ครั้งนี้เองก็ส่งลูกทีม( สท.)ลงเพียงครึ่งสภาฯเพียงทีมเดียวที่ส่งไม่ครบ รวมเพียง 9 คน ใน 3 เขตๆละ 3 คน จากทั้งหมดรวม 18 คน ที่ขอเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ มีคะแนนอย่างไม่เป็นทางการกว่า 3,849 คะแนน
ท่ามกลางบรรยากาศประชาชนตัวแทนผู้สมัครของแต่ละทีมทั้ง 3 คน ที่พากันนั่งติดตามดูผลกระนับคะแนนในทุกหน่วยเลือกตั้งทั้ง 47 หน่วยและทราบผลอย่างไม่เป็นทางการทั้งหมดแล้วก็ทำใจที่มีผู้ชนะเป็นว่าที่หมายเลข 3 เตรียมเป็นว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ คนใหม่ และคะแนนที่เหลือก็ยากที่จะพลิกกลับมาชนะได้แล้วในครั้งนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: