ที่กองบังคับการสถานีตำรวจธูธรจังหวัดลพบุรี ได้มีการแถลงจับผู้ต้องหาสร้างเฟซบุ๊กหลอกธนาคารขอเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พนักงานธนาคารหลงเชื่อทำการเปลี่ยนข้อมูลตามบัญชีที่คนร้ายต้องการ มีผู้เสียหายสูญเงินไปกว่า 8 ล้านบาท โชคดีตำรวจรวบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
วันนี้ 30 มี.ค. 2564 เวลา 13.30 ที่หน้ากองบังคับการสถานีตำรวจธูธรจังหวัดลพบุรี โดย พลงต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก. และรอง ผบก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวคนร้ายจำนวน 4 ราย ที่ร่วมกันแฮกเฟซบุ๊กของผู้อื่น นำไปหลอกเจ้าหน้าที่ธนาคารถอนเงินออกไปได้จำนวน 8 ล้านบาท ซึ่งคนร้ายแก๊งนี้ยังมีอายุน้อยสุดเพียง 20 ปี ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าไม่เพียงผู้เสียหายชาวจังหวัดลพบุรรีเท่านั้น คาดคงมีผู้เสียหายรายอื่นๆ อีกมาก ซึ่งต้องขอสอบสวนเพื่อขยายผลต่อ ตำรวจเตือนให้ระวังเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์อิเลคทรอนิค ควรรอบคอบรัดกุม และหมั่นตรวจบัญชีของตนเองให้บ่อยขึ้น และอย่าได้หลงเชื่อบุคคลอื่น ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารยังโดนหลอกได้
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค1 ตรวจสระบุรี ตำรวจทางหลวง และตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ใช้เวลาในการรวบรวมหลักฐาน 10 วัน สามารถติดตาจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 คน ในพื้นที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ทราบชื่อ 1.นายพรเทพ เปียไพบูลย์ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 22/3 หมู่ที่ 9 ต.หลักชัย องลาดบัวหลวง พระนครศรีอยุธยา 2.นายรุ่งโรจน์ อ่อนละมัย อายุ 23 ปี เลขที่ 36/1 หมู่ที่ 3 ต.พิกุลทอง อ.เมือง ราชบุรี 3.น.ส.สุภาพรรณ แก้วทอง อายุ 23 ปี เลขที่ 57 หมู่ 2 ต.บ่อกระดาย อ.ปากท่อ ราชบุรี และ 4 น.ส.สริศา เลิศเรืองฤทธิ์ อายุ 20 ปี เลขที่ 11/1 หมู่ 2 ต.บ้านไร่ อ.เมือง ราชบุรี ตามหมายศาลจังหวัดลพบุรี หมายจับที่ 31/2564 ลงวันที่ 28 มี.ค.2564 โดยรวบตัวผู้ต้องหาได้ที่ อ.ปากท่อ จงราชบุรี ตรวจพบสมุดบันทึก มีรายชื่อเจ้าของบัญชีที่ได้รับความเสียหายกว่า 10 รายชื่อ และใบมรณะบัตรปลอมที่ใช้ประกอบเป็นเอกสารปลอม และสมุดบัญชีที่ไม่ใช่ของกลุ่มผู้ต้องหา ที่เชื่อว่านำไปใช้ก่อเหตุ
จากพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.สมศรี (นามสมมุติ) ผู้เสียหายว่า เมื่อวันที่ 12 ,15, 16 ,17, และวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา เงินในธนาคารแห่งหนึ่งสาขาวงเวียนสระแก้ว ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี ได้หายไปจำนวนมากถึง 8,000,000 บาท โดยไม่ทราบสาเหตุ สอบถามทางธนาคาร ก็ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมือง ลพบุรี ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกแก๊งแฮกข้อมูล หลอกนำเงินจากธนาคารออกไป จนมาทราบว่าแผนประทุษกรรมของคนร้าย ใช้วิธีหาข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก โดยที่ไม่เคยรู้จักจ้าวของบัญชีมาก่อน และไม่มีความใกล้ชิดเจ้าของบัญชีด้วย แอบอ้างเป็นผู้เสียหาย โดยทำทีโทรติดต่อกับ พนง.ธนาคาร ทำการขอเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำธุรกรรมทางอิเลคทรอนิคส์ (MobileBankimg และ Non-card) พนักงานหลงเชื่อทำการเปลี่ยนข้อมูลทางบัญชีตามที่คนร้ายต้องการ ขอรหัสเปิดใช้งานใหม่กับอุปกรณ์ใหม่ โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้รับซื้อบัญชีจากผู้เปิดบัญชีให้ เพื่อใช้รับโอนเงินจากบัญชีที่มียอดเงินฝากธนาคาร เมื่อได้เงินจากการโอนเงินจากธนาคารมายังบัญชีที่ซื้อไว้แล้ว ก็จะตระเวนถอนเงินสดจากตู้ เอทีเอ็ม หรือบางครั้งก็ใช้วิธีถอนเงินสด
ตำรวจสามารถตรวจยึดทรัพย์สิน เงินสด ทองรูปพรรณ โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ จำนวน 3 คัน จักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1กระบอก และพบพยานหลักฐานสำคัญจากโทรศัพท์ มือถือ ที่กลุ่มคนร้ายใช้ทำการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิคส์ โดยพบข้อมูลการแจ้งเตือนของธนาคารในโทรศัพท์มือถือของกลุ่มผู้ต้องหา เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาได้แฮกเปลี่ยนอีเมลที่ผู้เสียหายแจ้งไว้กับธนาคาร ทำให้ระบบการตอบโต้อัตโนมัติของธนาคารเมื่อกลุ่มผู้ต้องหาทำธุรกรรม จะไม่มีการแจ้งเตือนไปยังเจ้าของบัญชี เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาใช้วิธีเปลี่ยนอีเมลเจ้าของบัญชีเป็นอีเมลขยะ ทั้งนี้ผู้ต้องทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพและให้การซัดทอดผู้ร่วมขบวนการอีกหลายรายทีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าติดตามอย่างกระชั้นชิด
