กรุงเทพฯ – นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ร่วมเปิดงาน ‘ประชุมสัมมนานานาชาติ เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ : GTEC’ งานสัมมนาเจรจาจับคู่ทางการค้า เชื่อมโยงสินค้า-บริการของคนไทย และกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม) เข้ากับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนที่มีกำลังซื้อและศักยภาพสูง ช่วยเพิ่มช่องทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการ ในช่วงวิกฤติโควิด-19 พร้อมร่วมเสวนาในหัวข้อ ‘มุมมองและโอกาสของผู้ประกอบการกับการเชื่อมโยงการค้าออนไลน์ บนระเบียงเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ GTEC ภายใต้สถานการณ์โควิด-19’ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ จากทั้งไทยและจีนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ขึ้นในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย แต่ทุกวิกฤติมักจะมาพร้อมโอกาสเสมอ หนึ่งในโอกาสสำคัญ คือ “การทำตลาดออนไลน์” ที่เห็นได้ชัดเจนว่า ภาวะวิกฤติมีส่วนเร่งให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการไทยขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กันมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม วิกฤติเศรษฐกิจทำให้ประเทศเพื่อนบ้านมีกำลังซื้อน้อยลง และการส่งออกข้ามทวีปเป็นไปได้ยาก ดังนั้น การมองหาตลาดที่มีความต้องการซื้อสินค้าสูงอย่างตลาดจีนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบัน ไทยมีสินค้าอุปโภค-บริโภคจำนวนมากที่มีอัตลักษณ์ประจำถิ่นโดดเด่นอยู่แล้ว แต่ผู้ประกอบการบางรายอาจจะยังขาดองค์ความรู้เรื่องการหาตลาด การนำเทคโนโลยีมาใช้กับธุรกิจ รวมถึงการรักษาคุณภาพและการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าอยู่บ้าง จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ในการช่วยกันพัฒนาการค้าออนไลน์ของไทยให้มีมูลค่าสูง และมีศักยภาพที่พร้อมแข่งขันบนเวทีโลก ภายใต้นโยบาย ‘เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด’ ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ ให้ผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน
นายปริญญ์ กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้การค้าออนไลน์เติบโตอย่างยั่งยืน คือ การปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดให้ทันโลกยุคใหม่ที่ไร้พรมแดน โดยนำความเป็น 0.4 อัตลักษณ์ท้องถิ่น มาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ 4.0 ซึ่งการบูรณาการความร่วมมือผ่านโครงการจีเทคในครั้งนี้ จะสามารถตอบโจทย์การสร้างความยั่งยืนได้ในทุกมิติ ทั้งด้านรายได้ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน เพราะเป็นงานที่ผสมผสานระหว่างการหาตลาดก่อนการผลิต การให้องค์ความรู้ด้านการประกอบอาชีพแก่ผู้ประกอบการ การประชาสัมพันธ์สินค้าไทย และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
ความร่วมมือดังกล่าว ยังสามารถนำไปต่อยอดในมิติของการท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรได้อีกด้วย เพราะเมื่อสถานการณ์วิกฤติเริ่มคลี่คลาย จะทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยและอุดหนุนสินค้าไทยกันมากขึ้น จึงควรแปลงจีนให้เป็นโอกาส อย่ามัวแต่กลัวหรือกังวล
ในงาน ยังมีกิจกรรมเจรจาจับคู่ทางการค้าและบริการ ให้คำปรึกษาด้านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนด้วย
นอกจากนี้ ยังมีนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ, นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ประธานอนุกรรมการการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร, นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และ พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน ร่วมงานด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: