พระชาวเยอรมันวัย 80 ปี โรคประจำตัวกำเริบมรณภาพบนกองขยะภายในกุฏิวัดอโศการาม ซอย 4 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 13 เมษายน 2564 พ.ต.ท.วุฒิ พุฒิพานนท์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีพระลูกวัดอโศการาม เสียชีวิตอยู่ภายในกุฏิ ภายในวัดอโศการาม ซอย 4 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
กุฏิที่เกิดเหตุอยู่บริเวณท้ายซอย 5 ติดชายแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นกุฏิชั้นเดียวปลูกอยู่ในป่าชายเลนและยกพื้นสูงประตูกุฏิเปิดอ้าอยู่มีกลิ่นเหม่นของซากศพโชยลอยออกมา จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้พบศพพระอินโก้ มูลเลอร์ อายุ 80 ปี ฉายา ธมมิโก ชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นพระลูกวัดดังกล่าวนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนกองขวดพลาสติกและขยะจำนวนมากที่กองสุมอยู่ภายในกุฏิสภาพท่อนล่างเปลือยเปล่าสบงที่นุ่งอยู่หลุดไปกองอยู่ข้างตัวใส่อังสะเพียงพื้นเดียว ในสภาพขึ้นอึดคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ตามร่างกายไม่พบบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
จาการสอบถามพระลูกวัดที่มีกุฏิอยู่ใกล้กัน ได้เล่าว่า พระอินโก้มาบวชที่วัดนี้มานานกว่า 28 พรรษาแล้วและปกติจะไม่ค่อยออกมาสุงสิงกับใคร และไม่ค่อยมีใครไปสุงสิงกับพระอินโก้มากนัก เนื่องจากพระอินโก้ ชอบสะสมขวดและเศษของเก่าต่าง ๆ ไว้เต็มห้อง จึงไม่มีใครเข้ายุ่งกับพระอินโก้ และเท่าที่ทราบพระอินโก้ มีโรคประจำตัวอยู่หลายโรค ก่อนหน้านานมาแล้วเคยไปหาหมอ แต่มาระยะหลังพระอินโก้ กลับไม่ยอมไปหาหมอได้แต่เก็บตัวเงียบอยู่ในกุฏิ และไม่พบเห็นพระอินโก้ ออกมาจากกุฏิหลายวันแล้ว จนกระทั่งในวันนี้มีกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพลอยโชยออกมาจากกุฏิของพระอินโก้ จึงได้ไปแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่มาประจำจุดคัดกรองโควิด 19 ที่ตั้งอยู่หน้าวัดให้เข้ามาตรวจดูจึงทราบว่าพระอินโก้ นอนเสียชีวิตอยู่ในกฏิดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าระหว่างที่พระอินโก้ จำวัดอยู่ในกุฏิ และโรคประจำตัวเกิดกำเริบอย่างรุนแรงและดิ้นรนจนสบงที่นุ่งอยู่หลุดมากองอยู่ข้างตัวแต่ไม่มีใครได้ยินและเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
