เกิดเหตุไฟไหมโกดังเก็บอะไหล่เครื่องยนต์ภายในเชียงกงบางพลี ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจังสงบ คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 13 เมษายน .2564 ร.ต.อ.เทิดภูมิ ดวงประทุม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โกดังเก็บอะไหล่รถยนต์มือสองชื่อบริษัท เนียหมัด-อุลลาฮ์ (ประเทศไทย) ซึ่งตั้งอยู่ภายในเชียงกงบางพลี เลขที่ 18/12 หมู่ 13 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิง เทศบาลบางแก้ว และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 10 คัน เดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
- ‼️เลือดหนึ่งหยด..มีค่า-ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วย,บาดเจ็บ‼️
ที่เกิดเหตุ เป็นโกดังชั้นเดียวสองคูหาท้ายซอยดังกล่าวซึ่งเป็นโกดังเก็บอะไหล่เครื่องยนต์และอะไหล่มือสองจากประเทศญี่ปุ่น ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในห้องสำนักงานซึ่งอยู่ด้านในสุดของโกดังและกำลังลุกลามออกมาลุกไหม้ชินส่วนรถยนต์และเครื่องยนต์เก่ามือสองที่วางเรียงอยู่ด้านนอกโดยเพลิงได้ลุกโหมอย่างรุนแรง เนื่องจากในเครื่องยนต์แต่ละตัวมีน้ำมันเบนซินค้างอยู่ภายในปั้มติ๊กของเครื่องยนต์ จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เพลิงลุกโหมอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าห้องสำนักงานถูกเพลิงเผาผลาญจนวอดเสียหายทั้งหมดรวมทั้งเครื่องยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่กองอยู่ด้านหลังเสียหายบางส่วน รวมทั้งหลังคาโกดังเสียหายบางส่วน นอกจากนี้ยังพบว่ามีรถจักรยานยนต์ถูกไฟเผาได้รับความเสียหายไปอีก 1 คัน
จากการสอบถาม นาย อุลลา อิซาน อายุ 38 ปี ชาวปากีสถาน ผู้เป็นเจ้าของได้เล่าผ่านล่ามว่า วันนี้เป็นวันหยุด ในขณะเกิดเหตุโกดังได้ปิดไว้และไม่มีใครทำงานอยู่ด้านใน ส่วนตนได้เดินทางไปละหมาดที่มัสยิส ที่อยู่ไม่ไกลจากโกดังที่เกิดเหตุมากนัก ขณะกำลังร่วมพิธีละมาดอยู่ เพื่อนที่อยู่ใกล้เคียงโกดังที่เกิดเหตุได้โทรศัพท์ไปบอกว่าโกดังของตนถูกไฟไหม้ จึงรีบเดินทางกลับมาพบไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงบริเวณห้องสำนักงานซึ่งอยู่ด้านในจึงรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ส่วนค่าเสียหายยังไม่สามมารถประเมินได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้โดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: