X
ไปไม่รอด

ควานหาตัว กันทั้งวันสาวลายพรางต้องคดีลักทรัพย์ สุดท้ายโผล่ออกมาให้จับ

ฉะเชิงเทรา – ควานหาตัว กันมาตลอดทั้งวันสาวแต่งพรางคล้ายทหารโจรกรรมรถยนต์จาก จ.ศรีสะเกษ สุดท้ายพบโผล่ออกมายืนรอโบกรถหลบหนีอยู่ริมข้างทาง ให้ จนท.เข้าจับกุมตัวได้อย่างง่ายดาย ก่อนนำตัวมาสอบสวนปากคำ ทำประวัติและบันทึกการจับกุมยังที่ สภ.สนามชัยเขต พบมีประวัติก่อคดีมามากกว่า 4 คดี แล้ว ขณะชุดสืบสวนจาก สภ.เมืองศรีสะเกษ รีบคุมตัวกลับไปดำเนินคดียังท้องที่เกิดเหตุในทันที

วันที่ 13 เม.ย.64 เวลา 22.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีหญิงสาวรายหนึ่ง วัยเพียง 21 ปี แต่งกายด้วยชุดลายพรางคล้ายทหาร ก่อเหตุโจรกรรมลักทรัพย์เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสันมาร์ชสีขาว หมายเลขทะเบียน กต-7980 ศรีสะเกษ มาจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่เมื่อเวลา 16.30 น. ของเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (12 เม.ย.64) ก่อนที่จะขับมุ่งหน้ากลับมายังบ้านเกิด ในพื้นที่ ม.18 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

โผล่ออกมาให้จับ

แต่รถได้มาประสบอุบัติเหตุตกถนน ลงไปยังในป่าหญ้าที่มีไหล่สูงชันข้างทาง บริเวณหมู่บ้านโนนสะอาด พื้นที่ ม.11 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะเข้าถึงยังหมู่บ้านภูมิลำเนาเกิดไม่ไกลนักเพียงประมาณ 5 กม. โดยหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ นำโดย พ.ต.ท.ศราวุฒิ คำน้อย รอง ผกก. สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมกำลัง 6 นาย ที่ทำการแกะรอยติดตามคนร้ายรายนี้มา

มาจากศรีสะเกษ

ได้ประสานมายัง พ.ต.อ.สุมิตร พรมตอง ผกก. สภ.สนามชัยเขต พร้อมฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ ให้ร่วมนำกำลังออกไปช่วยติดตาม และปิดล้อมจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ ที่บริเวณจุดพบรถยนต์เก๋งที่มาประสบอุบัติเหตุตกลงไปยังบริเวณข้างทาง รวมถึงติดตามไปยังบ้านเกิดของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่พบตัว จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมอาสาสมัครหมู่บ้านและหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ออกลาดตระเวนปิดล้อมเพื่อควานหาตัวคนร้ายมาโดยตลอดทั้งวันตั้งแต่เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา แต่ไม่พบตัว

ลวงโจรกรรมาจากศรีสะเกษ

ต่อมาในเวลาประมาณ 17.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำตู้ยามนายาว ที่มาร่วมออกตระเวนค้นหา ได้มาพบตัวของ น.ส.ภีรียา ลิสีดา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 384 ม.18 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ จ102/2564 ลงวันที่ 13 เม.ย.64 ในข้อหา “ลักทรัพย์” ออกมายืนรอโบกรถอยู่ริมทางห่างจากจุดเกิดเหตุรถตกถนนมาประมาณ 6 กม. บริเวณหมู่บ้านทุ่งส่อหงสา ซึ่งยังเป็นพื้นที่ ม.11 ต.ท่ากระดาน เช่นเดียวกันกับจุดที่พบรถของกลางตกถนน

ตกถนนก่อนถึงบ้าน

ก่อนทำการซักถามสอบประวัติเบื้องต้น ว่าเป็นบุคคลตรงตามหมายจับหรือไม่ เมื่อผู้ต้องหายอมรับสารภาพจึงได้ควบคุมตัวเดินทางออกมาจากบ้านทุ่งส่อหงสา ในเวลา 17.50 น. และนำตัวมาทำการลงบันทึกการจับกุม ยังที่ สภ.สนามชัยเขต ในเวลา 19.00 น. และจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหายังได้ยอมรับว่าได้เคยก่อเหตุในคดีลักทรัพย์ ในทำนองเดียวกันนี้มาแล้วถึง 4 คดี

ขับมาตกถนน

โดยการไปโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี 1 คดี จ.นครนายก 1 คดีที่ จ.ระยอง 1 คดี และล่าสุดจึงได้ไปก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์เก๋งมาจาก จ.ศรีสะเกษ ในครั้งนี้อีก 1 คดี หลังจากที่ได้ไปออกอุบายลวงหนุ่มวัย 48 ปี ชาว ต.บัวทุ่ง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่เพิ่งรู้จักกัน ในระหว่างที่ถูกพาไปร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ยังภายในร้านสุกี้แบรนด์ชื่อดัง ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน ต.หญ้าป้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ยอมให้จับแล้ว

โดยในขณะที่กำลังร่วมรับประทานอาหารอยู่ภายในร้าน ผู้ก่อเหตุได้ลวงผู้เสียหายโดยอ้างว่า ได้ลืมกระเป๋าเอาไว้ภายในรถยนต์เก๋งคันที่โจรกรรม ก่อนที่ทางฝ่ายของผู้เสียหายจะส่งมอบกุญแจรถให้ เพื่อให้กลับไปเอาของที่ลืม แต่หลังผู้ก่อเหตุออกไปแล้วไม่ยอมกลับเข้ามา เมื่อผู้เสียหายติดตามไปดูจึงพบว่ารถยนต์ของตนเองได้ลูกโจรกรรมหายไปแล้ว พร้อมกับหญิงสาวที่แต่งกายคล้ายทหารที่เพิ่งรู้จักกัน

ก่อคดีโจรกรรมรถ

หลังเกิดเหตุผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ช่วยตืดตามตัวคนร้ายกลับมาดำเนินคดีดังกล่าว หลังเจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมตัวคนร้ายได้ และนำตัวมาทำการลงบันทึกการจับกุมไว้ยังที่ สภ.สนามชัยเขต แล้ว จึงได้รีบนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง เดินทางกลับไปเมื่อเวลา 20.40 น.

ไปก่อเหตุไกลถึงศรีสะเกษ

เพื่อส่งมอบให้ ร.ต.อ.อภิสิทธิ์ สุโพธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งระหว่างการลงบันทึกจับกุมผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

จับกุมได้แล้ว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน