กรุงเทพฯ – นายอนุทิน ชาญวีรกูล เผย ผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถาน ตามเวลาที่กำหนดเองได้ พร้อมเร่งฉีดวัคซีน คาด 1 สัปดาห์ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะลดลง
วันที่ 16 เมษายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า จะนำมติจากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งเสนอปรับสีพื้นที่ควบคุมทั่วประเทศ ประกอบด้วย สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 18 จังหวัด และสีส้ม หรือพื้นที่ควบคุมขั้นสูง จำนวน 59 จังหวัด เสนอต่อที่ประชุม อย่างไรก็ตาม ยังสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะออกมาตรการออกมา
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังมีอำนาจ ประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ได้ ซึ่งที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เคยออกมาตรการเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น. มาแล้ว
“การให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเคอร์ฟิว เป็นการกระจายอำนาจให้แก่ผู้ว่าฯ เนื่องจากเป็นผู้ทราบถึงความจำเป็นและสถานการณ์ของจังหวัดว่าเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้ มาตรการที่จะออกมา ต้องคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนให้น้อยที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 นั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า วัคซีนของบริษัทซิโนแวก จำนวน 1 ล้านโดส ที่เข้ามา เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 เน้นฉีดให้แก่บุคลากรด้านสาธารณสุขให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ เพื่อให้ได้รับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เนื่องจากต้องดูแลผู้ป่วย ยืนยันไม่เคยปิดกั้น และพร้อมที่จะให้ทุกฝ่ายที่มีศักยภาพในการนำเข้าวัคซีน กระทรวงสาธารณสุขให้นโยบายไปยัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด ถ้าหาวัคซีนมาได้ ซึ่งวัคซีนซิโนแวกก็เป็นวัคซีนทางเลือกหนึ่ง ที่รัฐบาลจัดหามาได้
“ถ้าทุกคนเริ่มตระหนักปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบกิจกรรมความเสี่ยงลดลง วงรอบการแพร่เชื้อจะอยู่ในวงรอบ 2 สัปดาห์ ขอให้ร่วมมือกัน อึดกันอีก 2 สัปดาห์ สถานการณ์การแพร่ระบาดจะมีแนวโน้มดีขึ้น ถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไม่ได้เป็นศูนย์ทันทีก็ตาม แต่ระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังจากนี้ จะเป็นการตัดวงรอบการแพร่ระบาดได้ระดับหนึ่ง จะเอาเข้มสุด ๆ เลยก็เกรงว่าจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน เราก็พยายามเอาในส่วนที่ระบบสาธารณสุขรับได้ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนในระดับหนึ่ง ก็จะทำให้ประคับประคองสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้”
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การพบผู้ติดเชื้อพันกว่าคนนั้น เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพราะมาจากคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นก่อนเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงฟักตัวของเชื้อพอดี ดังนั้น เมื่อพ้น 2 สัปดาห์ไป เชื้อจะอ่อนกำลังลงและไม่สามารถแพร่ออกไปได้ สำหรับจำนวนเตียงเพียงพอ แต่บุคลากรทางการแพทย์มีจำกัด แต่การใช้มาตรการเข้มข้นมาก และถ้าประชาชนให้ความร่วมมือ ใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง ก็คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์หลังจากนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจะค่อย ๆ ลดลง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: