กระบี่-พ่อร้องสอบคดีใหม่ ลูกชายขี่บิ๊กไบค์ถูกกระบะชนดับ เชื่อเป็นการฆาตกรรมไม่ใช่อุบัติเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- มท.1 เยือนจังหวัดนครพนม เปิดงานมหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม ประจำปี 2567 ครั้งที่ 21 ผลักดัน Soft Power อำเภอศรีสงคราม
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- รวบสาวใหญ่ซิ่งมอไซค์ขนยาบ้า 516,000 เม็ด
- นนทบุรี กระบะเลี้ยวตัดหน้า จยย.พุ่งชน ร่างหนุ่มชาวลาวลอยก่อนตกกระแทกพื้นดับ
เหตุการณ์หนุ่มบิ๊กไบค์ ถูกรถกระบะชนล้มจนเสียชีวิตแล้วหลบหนี จนพ่อของผู้ตายไปไล่ดูกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ ทำให้สงสัยว่าลูกชายอาจจะถูกฆาตกรรมรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจาก นายสมหมาย อธิกุลพิทักษ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 198/57 ซอยเจริญทรัพย์ ถนนกระบี่ หมู่ 7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ ช่วยรื้อคดีลูกชายตัวเองถูกรถชนเสียชีวิต มาตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เพราะสงสัยว่าอาจจะเป็นการตั้งใจชนโดยอำพรางให้เป็นอุบัติเหตุ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.20 น.วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ริมถนนอุตรกิจ ฝั่งขาออกจากตัวเมืองกระบี่ ช่วง ต.กระบี่ใหญ่ โดยรถ จยย.ที่ถูกชนเป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า CBR สีดำ ทะเบียน 1 ก 3224 ภูเก็ต ส่วนผู้เสียชีวิตคือนายศิริ หรือโต้ง อธิกุลพิทักษ์ อายุ 38 ปี ลูกชายของนายสมหมาย ซึ่งในคืนเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ จยย.ล้มเองบาดเจ็บจนเสียชีวิต แต่ต่อมานายสมหมาย พ่อของผู้ตาย ออกไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ ก็พบว่ามีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัล สี่ประตู สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับมาเฉี่ยวชนจนรถของนายศิริ ล้มลงเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่รถกระบะคันก่อเหตุจะขับหลบหนีไป ซึ่งนายสมชาย มองภาพจากกล้องวงจรปิด เชื่อว่ารถกระบะตั้งใจเบียดให้รถของลูกชายล้มลง
นายสมหมาย เล่าว่า ในคืนเกิดเหตุ ตนเองไปดูลูกชายที่ รพ.กระบี่ หลังจากเกิดเหตุแล้ว แรกทีเดียวก็เข้าใจว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถ จยย.ล้มเองทำให้เสียชีวิต ก็ไม่ได้ติดใจอะไรนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี แล้วต้องรีบทำการฌาปนกิจศพในวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะตามความเชื่อของคนไทย จะไม่ไว้ศพข้ามปี เพราะวันที่ 13 เม.ย.เป็นวันปีใหม่ไทย แต่ต่อมาตนพร้อมด้วยลูก ๆ ไปขอไล่ดูกล้องวงจรปิดจากบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ ก็มาพบว่ารถของลูกชาย ถูกรถกระบะชนจนล้มลง โดยตนมองว่ารถกระบะคันที่ชน เหมือนจงใจเบียดเข้าใส่รถของลูกชาย ตนจึงไปไล่ดูกล้องวงจรปิดจากอีกจุดซึ่งเป็นสามแยกกองทุนสวนยาง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นจุดก่อนเกิดเหตุ ก็พบภาพรถกระบะคันที่ชน กับรถของลูกชายตน โดยเป็นช่วงที่รถกระบะขับอยู่ด้านหน้ารถลูกชายตนผ่านบริเวณสามแยก แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เหมือนกับรถกระบแตะเบรก เหมือนกำลังรอให้รถของลูกชายตนขับไปใกล้ ๆ กัน จนไปถึงจุดเกิดเหตุ เป็นจุดที่ไม่มีบ้านคน ข้างทางเป็นป่าละเมาะและไม่มีกล้องวงจรปิด แต่โชคดีที่จุดที่รถเบียดกัน เป็นจุดที่อยู่ในมุมกล้องของบ้านหลังสุดท้ายบริเวณดังกล่าว จึงสามารถจับภาพไว้ได้
นายสมหมาย เล่าต่อว่า หลังจากได้เห็นภาพกล้องวงจรปิด ตนก็สงสัยว่าลูกชายอาจไม่ได้ประสบอุบัติเหตุธรรมดา อาจจะเป็นการตั้งใจฆ่าหรือไม่ โดยเฉพาะบาดแผลบริเวณศีรษะ ตนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะถูกรถเหยียบซ้ำหรือไม่ เพราะลูกชายตนจะไม่ขี่รถเร็ว หากล้มปกติก็ไม่น่าจะเจ็บหนัก จึงอยากให้ตำรวจช่วยรื้อคดีนี้ขึ้นมาสอบสวน และตรวจสอบใหม่อีกครั้ง รวมถึงติดตามรถคันก่อเหตุมาให้ได้ หากเป็นการตั้งใจชน ตนมองว่าประเด็นอาจจะมาจากงานที่ลูกชายทำ เพราะลูกชายจะเป็นคนทำหน้าที่ติดตามทวงหนี้เงินกู้ให้กับบ้านของภรรยา ก่อนนี้ภรรยาลูกชายเพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวไปเมื่อ 4 เดือนก่อน แต่ลูกชายก็ยังอาศัยอยู่กับครอบครัวของภรรยา ทำงานรับจ้างทวงหนี้ให้กับแม่ของภรรยา และเคยไปทวงหนี้ลูกหนี้หลายราย บางรายต้องยึดทรัพย์ อาจจะเป็นชนวนไปสร้างความเจ็บแค้นให้กับลูกหนี้ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีประเด็นเรื่องชู้สาว ซึ่งหลังภรรยาเสียชีวิต ก็ไปสนิทสนมกับเพื่อนสาวคนใหม่ แต่ประเด็นนี้ตนมองว่าไม่น่าจะถึงกับการฆ่าเอาชีวิตได้ จึงสงสัยเรื่องการทำงานมากกว่า
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลของคดีนี้ไปยัง พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ทราบว่า คดีนี้จากการสอบถามพนักงานสอบสวนในคดี ทราบว่า ในวันเกิดเหตุ ทางตำรวจยังไม่ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จึงสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าอาจจะเป็นอุบัติเหตุรถ จยย.ล้มเองเป็นเหตุให้เสียชีวิต แต่เมื่อได้ภาพกล้องวงจรปิดมา ทำให้เห็นว่าเป็นการเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ตอนนี้จึงสั่งให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ ออกตรวจสอบเรื่องนี้ โดยให้ไล่ตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งติดตามรถกระบะคันที่ชนมาสอบสวน แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นการตั้งใจชนหรือไม่ รอให้ชุดสืบสวนสืบหาข้อมูลก่อน.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: