พิษโควิดทำธุรกิจพัง สาวใหญ่ วัย 62 ปี เครียดตัดสินใจจุดถ่านรมควันหวังฆ่าตัวตายภายในรถเก๋ง โทรหาอดีตลูกน้องฝากดูแลลูก โชคดีแฟนของอดีตลูกน้องมาเจอรถก่อนเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือโดยการทุบกระจก ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 19 เมษายน 2564 พ.ต.ต.ชนินทร์ เพชรคำ สารวัตรสอบสวน สภ เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวทำร้ายตัวเองด้วยการรมควันในรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ในลานจอดรถ บ่อตกปลาบึงปราการ ภายในซอยร่มเย็น ข้างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ หมู่ที่ 5 ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง สับปะรดทอด-ข้าวเม่าทอด ดาวเด่นประจำร้านสมพร รสชาติอร่อย ราคาเป็นกันเอง
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบอร์นทอง ทะเบียน วล 5911 กรุงเทพมหานคร ที่ประตูมีสติกเกอร์โลโก้ของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย เทพาพิทักษ์ ปฏิบัติการร่วม ศบภ.กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ติดอยู่ที่ประตูทั้ง 2 บานด้านหน้าร่วมทั้งกระจกหน้าและกระจกหลัง จอดอยู่ภายในลานจอดติดเครื่องยนต์อยู่โดยที่ประตูทั้ง 4 ด้านล็อก โดยมีหญิงสาวนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ มีอาการชักกระตุกและน้ำลายฟูมปาก และที่พื้นด้านล่างของเบาะนั่งด้านหน้าข้างซ้ายได้พบหม้อสแตนเลสภายในหม้อใบดังกล่าวมีถ่านที่ติดไฟวางอยู่และมีเปลวไฟขึ้นมาลุกไหม้คอนโซนหน้ารถ เจ้าหน้าที่พยายามเคาะประตูเรียกหญิงสาวคนดังกล่าวแต่ก็ไม่ได้สติจึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพใช้คีมตัดเหล็กทุบกระจรประตูหลังข้างขวา เพื่อเข้าปลดล็อกประตูเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าวออกมาได้ในสภาพหมดสติ และทราบชื่อภายหลังชื่อนางอรนุช คงทรัพย์ อายุ 61 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ และรีมน้ำหม้อสแตนเลสที่ใส่ถ่านติดไฟอยู่วางอยู่ที่พื้นรถด้านหน้าโดยมีกระทะว่างรองอยู่ด้านล่าง ออกจากตัวรถและชาวกันทำการดับไฟที่กำลังไหม้ที่คอนโซนหน้ารถ
จากการสอบถามนายศรีไพ ภูเด่น อายุ 46 ปี ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่บ้านแฟนได้บอกให้ตนขี่รถจักรยานยนต์มาดูที่บ้านนางอรนุช ที่ว่าอยู่ที่บ้านหรือเปล่าเนื่องจากก่อนหน้านี้นางอรนุช ได้โทรเข้ามาสอบถามแฟนตนว่าถ้ารมควันในรถจะหายใจออกหรือเปล่า ตอนแรกแฟนตนคิดว่าน่าจะพูดเล่น แต่นางอรนุช ยังได้พูดในลักษณ์คล้ายกับการสั่งเสียโดยบอกฝากให้แฟนตนช่วยดูแลหลานด้วยพร้อมทั้งบอกว่าลาก่อน ก่อนที่สายจะหลุดไปและโทรติดต่ออีกไม่ได้ ตนจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ออกมาเพื่อที่จะไปดูที่บ้าน แต่ระหว่างทางได้เห็นรถของนางอรนุช จอดติดเครื่องยนต์อยู่ในลานจอดรถของบ่อตกปลาบึงปราการ ก่อนถึงบ้านประมาร 200 เมตร จึงได้ได้รีบวนรถเข้าไปดูพบว่าประตูรถทั้ง 4 ด้านล๊อกอยู่โดยที่นางอรนุช นั่งอยู่ที่เบาะคนขับและมีอาการชักกระตุก และมีน้ำลายไหยออกมาทางปาก และสังเกตเห็นว่าที่พื้นเบาะนั่งข้างซ้ายมีหม้อสแตนเลสว่างอยู่ภายในหม้อมีถ่านหุงข้าวที่ติดไปลุกแดงฉานอยู่ในหม้อ ตนจึงพยายามเคาะกระจกเรียกแต่นางอรนุช ไม่มีอาการตอบสนอง จะทุบกระจกก็ไม่กล้ากลัวผิดกฎหมาย จึงได้โทรศัพท์แจ้งข้อความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าตำรวจและหน่วยกู้ชีพให้มาช่วยเหลือ
นางอารีย์ ปิ่นแก้ว อายุ 46 ปี ภรรยานายศรีไพ ได้เล่าว่า ขณะที่ตนนั่งเล่นอยู่ที่บ้านกับสามีนางอรนุช ได้โทรมาตนสอบถามว่าถ้ารมควันในรถจะหายใจออกหรือเปล่า และบอกให้ตนช่วยดูแลหลานให้ดีนะ รักและคิดถึงนะอารีย์ ตนจึงพูดไปว่าจะทำอะไรคิดให้ดี ๆ นะ และถามว่าอยู่ที่ไหน แกก็บอกว่าอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ ลาก่อนและสายโทรศัพท์ก็ตัดไป ตนจึงให้แฟนขี่รถจักรยานยนต์ไปดูอยู่ที่บ้านหรือเปล่า แต่แฟนตนมาพบรถยนต์ของนางอรนุช จอดอยู่ที่ลานจอดรถบ่อตกปลาดังกล่าว สาสาเหตุนางอรนุช เคยเล่าให้ฟังว่า มีปัญหาหลายอย่างมันรุมเร้า ทั้งธุรกิจที่ทำอยู่ต่างประเทศก็ต้องมาชะงักแต่โควิด ทำให้มีปัญหาเรื่องเงินขาดสภาพคล่อง และการแยกทางกับสามีที่เป็นตำรวจยศนายดาบ งานจราจร สภ.เมืองสมุทรปราการ และเรื่องส่วนตัวอีกหลายเรื่อง จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า นางอรนุช ผู้ก่อเหตุน่าจะเกิดอาการเครียดที่ถูกปัญหาต่าง ๆ รุมเล้าทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องการเงินรวมทั้งปัญหาในครอบครัว ซึ่งคาดว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ผู้ก่อเหตุน่าจะเตรียมเอามาจากที่บ้านพักก่อนที่จะขับรถมาจอดในลานจอดรถดังกล่าวและลงมือก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: