นครศรีธรรมราช : ยอดโควิดนครศรีธรรมราชลดลงจากวานนี้ 55 ราย เหลือ 22 รายล่าสุดวันนี้ สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง ขณะผู้ว่าราชการจังหวัดขอความร่วมมือ ปชช.งดเดินทางหรือออกจากบ้านหลังระหว่างสามทุ่มจนถึงตีสี่ พร้อมโทษปรับสูงหาก ปชช.ออกจากบ้านไม่สวมหน้ากากอนามัย
ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รายงานสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 รายวัน ประจำวันที่ 25 เม.ย.64 ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ระลอกเดือนเมษายน พบว่ามียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 22 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่ายอดผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับคงที่ หากเทียบกับวันอื่น ๆ ที่ผ่านมา ถือว่าสถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง มีเพียงวานนี้วันเดียวเท่านั้นที่ยอดตัวเลขพุ่งสูงกระโดดไปถึง 55 ราย แต่ก็เป็นที่น่ายินดีที่ยอดผู้ติดเชื้อลดลงในวันนี้
หลังผลตรวจยืนยันจากห้องปฎิบัติการของทางโรงพยาบาลทั้ง 8 แห่ง ประกอบไปด้วย รพ.มหาราช,รพ.สิชล,รพ.พระพรหม,รพ.ทุ่งใหญ่,รพ.ลานสกา,รพ.ชะอวด,รพ.ทุ่งสง และ รพ.หัวไทร พบว่าผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มทั้ง 22 ราย มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ 1 ราย ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ที่เพิ่งพบผู้ติดเชื้อเป็นรายแรก,อ.พระพรหมเพิ่มขึ้น 5 ราย ยอดสะสม 15 ราย,อ.สิชลเพิ่ม 5 ราย ยอดสะสม 8 ราย,อ.เมืองเพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 64 ราย,อ.พรหมคีรีเพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 25 ราย,อ.หัวไทรเพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 3 ราย,อ.ทุ่งสงเพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 8 ราย,อ.ลานสกาเพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 11 ราย,อ.เฉลิมพระเกียรติเพิ่ม 4 ราย ยอดสะสม 26 ราย และ อ.ชะอวดเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ยอดสะสม 3 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในขณะนี้รวมทั้งหมด จำนวน 215 ราย ในนี้มีผู้ป่วยที่สามารถรักษาหายได้แล้วจำนวน 6 ราย ที่เหลือ 209 รายยังคงเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ทั้ง 8 แห่ง ยังไม่มีผู้ใดเสียชีวิตกับโรคระบาดของเชื้อไวรัสในครั้งนี้
ด้านข้อมูลล่าสุดที่ฝ่ายงานประชาสัมพันธ์จังหวัดได้เผยแพร่ผ่านทางโซเชี่ยล เพื่อให้พี่น้อง ประชาชนได้รับทราบ และนำไปปฏิบัติ หลังนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอความร่วมมือจากประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปหลาย ๆ สถานที่พร้อมงดจัดงานหรือกิจกรรมใด ๆ ที่มีคนมารวมตัวกันตั้งแต่ 30 คน ขึ้นไป และหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านระหว่างเวลา 21.00น.-04.00น.
ขณะเดียวกันทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยพล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชได้ออกประกาศเตือน ปชช.ตาม พรบ.ควบคุมโรค มาตรา 51 หากออกจากบ้านไม่สวมหน้ากากอนามัย จะมีความผิด ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
นายแพทย์อารักษ์ วงษ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล ได้กล่าวถึงบททดสอบการปฎิบัติหน้าที่ของทีมรักษาพยาบาลผู้ป่วยว่า การตัดสินใจเป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อต้องย้ายผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุรายหนึ่งซึ่งมีโรคประจำตัวหลายโรค เข้าห้องแรงดันลบ เพื่อทำการช่วยชีวิต หลังมีอาการแย่ลง ระดับออกซิเจนในเลือดลดลงอย่างต่อเนื่อง หายใจหอบเหนื่อย ทางอายุรแพทย์จึงสั่งการให้ทีมปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้าไปรักษาในห้องแรงดันลบกู้ชีพที่มีเครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ช่วยชีวิตพร้อม เพื่อช่วยชีวิตในทันที โดยใช้รถเข็นลำเลียงในรูแบบแคปซูลแรงดันลบที่มีอ็อกซิเจนอยู่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างทาง พร้อมทีมเคลื่อนย้ายที่ผ่านการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี และทีมแพทย์ได้ตัดสินใจใส่ท่อช่วยหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจควบคุมด้วยแรงดัน และปริมาตร ขับเคลื่อนด้วยเทอร์ไบน์ เพื่อพยุงการหายใจ ให้เพิ่มระดับอ็อกซิเจนในเลือด จนสัญญานชีพกลับมาคงที่ ผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติ รู้สึกตัวดี อาการเป็นที่น่าพอใจ และมีแนวโน้มดีขึ้นมาก จึงเป็นอีกบททดสอบของทีมในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด19 ของทีมโรงพยาบาล กับช่วงเวลาอันสำคัญที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดความอ่อนล้าของบุคลากรทางการแพทย์ และลดการสูญเสียผู้ป่วย เพราะระบบไม่พอที่จะรองรับได้
ขณะที่ กองทัพภาคที่ 4 เปิดค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง ตั้ง รพ.สนาม 63 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเบื้องต้นกองพันเสนารักษ์ที่ 5 ได้จัดเตรียมทั้งอาคารสถานที่เตียงสนาม จำนวน 50 เตียง และ รพ.ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร จำนวน 13 เตียง พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์เครื่องมือ ไว้เพื่อสนับสนุนรองรับผู้ป่วยได้ในทันที เมื่อได้รับการร้องขอจากหน่วยงานหรือประชาชนทั่วไป โดยทางพลตรีอนุสรณ์ โออุไร เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจความพร้อมด้วยตนเอง
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิ้งก์ด้านล่าง
