ตำรวจทางหลวงนครสวรรค์ประกบจับรถขนแรงงานต่างด้าวขณะเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร แรงงานเผยต้องจ่ายค่าหัวคนละ 17,000 บาทเพื่อลักลอบเข้าไทย
นครสวรรค์-เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (นครสวรรค์) ไล่สกัดติดตามรถกระบะต้องสงสัยคันหนึ่งที่คาดว่า มีการลักลอบขนแรงงานเถื่อนเดินทางเข้ากรุงเทพ โดยรถกระบะคันดังกล่าว ได้ขับหลบหนีการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ จนต้องมีการใช้อาวุธปืนยิงยางเพื่อสกัดรถตามยุทธวิธี ก่อนที่จะสามารถหยุดรถกระบะคันนี้ไว้ได้บริเวณริมถนน ภายในพื้นที่หมู่ 2 เทศบาลตำบลพยุหะคีรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
จากการเปิดเผยของร.ต.อ อภิรักษ์ มีบุญ รอง สว.ส.ทล.4 กก.บก.ทล.บอกว่ารถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ 4 ประตู ยกพื้นสูง สีขาว และติดหลังคาไฟเบอร์ หมายเลขทะเบียน กว-1102 นครสวรรค์ มีนายคมสันต์ ทรัพย์ศรี อายุ 33 ปี ชาว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เป็นคนขับ ส่วนภายในรถ ทั้งในส่วนห้องโดยสารและด้านหลังกระบะพบว่ามีแรงงานต่างด้าว สัญชาติพม่า นั่งแอดอัดยัดเยียดอยู่ภายในรถ รวมกันถึง 25 คน จึงได้ให้ลงมาจากรถ ก่อนจะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พยุหะคีรี ให้มาตรวจสอบ พร้อมกับนำรถขนผู้ต้องหามาขนแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมได้ไปยังโรงพัก
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบจากแรงงานต่างด้าวว่า ได้แอบลักลอบข้ามประเทศมาจากทางแม่น้ำเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยต้องเสียเงินจากการเคลื่อนย้าย ตั้งแต่ประเทศพม่าไปจนถึงปลายทางที่กรุงเทพ เป็นจำนวนเงินหัวละ 17,000 บาท ซึ่งเมื่อไปถึงจะมีจะมีนายทุนที่เป็นนายจ้างรับพาไปทำงานอีกรอบหนึ่ง
ขณะที่นายคมสันต์ ยอมให้การรับสารภาพว่าลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจริง แต่ยังไม่ยอมเผยรายละเอียดใด และตลอดเวลาที่ถูกควบคุมตัว ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาตลอดเวลาด้วย ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาเพื่อให้สาวไปถึงผู้จ้างวานทั้งหมด ในการขยายผลจับกุมขบวนกลุ่มนายทุนที่เห็นแก่ตัว ยังแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ ทั้งที่กำลังอยู่ในวิกฤติจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดอยู่ในขณะนี้
ส่วนแรงงานต่างด้างที่ถูกจับทั้ง 25 ราย ได้มีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายในเบื้องต้นแล้ว ไม่พบว่ามีรายใดไข้ขึ้นสูง จึงจะมีการเตรียมส่งแรงงานเหล่านี้ให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยมีรายงานว่าในวันเดียวกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ด่าน ปส.พยุหะคีรี ยังสามารถสกัดจับกุมรถกระบะลักลอบขนแรงงานเถื่อนสัญชาติพม่าได้อีก 1 คัน จำนวน 25 ราย ซึ่งเป็นขบวนการเดียวกับคันแรกที่ถูกจับกุมก่อนหน้า และกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อหาต้นกลุ่มนายทุนจ้างวานด้วยเช่นกัน
