นครพนม – คลัสเตอร์เพื่อนรักฝากเชื้อ ต้นเหตุล็อกดาวน์ 2 หมู่บ้าน นครพนมพบเพิ่ม 7 ยอดสะสม 84 ราย “ครูแก้ว” ยกทีมเอกชนร่วมใจต้านภัยโควิด
วันที่ 26 เมษายน 2564 เวลา 12.00 น. ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ นพ.สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผอ.รพ.นครพนม ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19) ระลอกใหม่สายพันธุ์อังกฤษ พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 7 ราย รวมยอดสะสม 84 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลของการลุยตรวจค้นหาเชิงรุก โดยไล่เช็คจากไทม์ไลน์ของผู้ป่วยยืนยันผล ว่า ก่อนมีติดเชื้อไปสัมผัสใครบ้าง แล้วนำตัวบุคคลที่ผู้ป่วยกล่าวถึงมาตรวจค้นหาเชื้อดังกล่าว หากปล่อยไว้หรือรอให้ผู้ป่วยแสดงอาการ ก็อาจจะไปแพร่เชื้อสู่คนอื่นอีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับคลัสเตอร์ที่เป็นเหตุการณ์แพร่ระบาดมากที่สุดคือสถานบันเทิงในพื้นที่ ในจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ 84 ราย มีคลัสเตอร์ดังกล่าวมากถึง 38 รายและหนึ่งในนั้นเสียชีวิตแล้ว 1 ราย แต่ล่าสุดที่ตรวจพบเพิ่ม 7 รายนี้ ไม่มีคลัสเตอร์สถานบันเทิง ซึ่ง นพ.มานพฯสสจ.นครพนม เผยว่าอาจจะมีเพิ่มอีกไม่น่าเกิน 2 รายเพราะยังมีผลตรวจที่ยังไม่ได้ออกมาอีกจำนวนหนึ่ง
ขณะที่คลัสเตอร์จิวเลรี่ที่นั่งรถยนต์ส่วนตัวอัดเป็นปลากระป่อง 2 คน รวม 11 คน พบเพิ่มอีก 2 รายเป็นเพศชายอายุ 48 ปี และเพศหญิงอายุ 9 ขวบ โดยทั้งสองรายนี้อยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน ตรวจครั้งที่ 1 และ 2 ไม่พบเชื้อโควิด แพทย์ตรวจอีกเป็นครั้งที่ 3 จึงพบเชื้อดังกล่าว จึงนำเข้ารับการรักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม รวมคลัสเตอร์ปลากระป๋องมีผู้ป่วยติดเชื้อ 9 ราย เหลืออีก 2 รายรอผลการตรวจซ้ำอีกรอบ
3 รายต่อมาเป็นคลัสเตอร์บุญรวมญาติ ประกอบด้วยผู้ป่วยเพศหญิงอายุ 41 ปี 7 ปี และ 4 ปีตามลำดับ โดยเดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับผู้ป่วยยืนยันผลรายที่ 73 รวมทั้งหมด 4 คน และนัดรวมญาติพี่น้องกันที่นั่น ตลอดจนร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน และได้ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ญาติที่จังหวัดระยองต่อ หลังเดินทางกลับนครพนมผู้ป่วยรายที่ 73 มีอาการไข้จึงได้ขอรับการตรวจหาเชื้อ พบว่าติดเชื้อโควิดจากพื้นที่เสี่ยงสูง ทีมสอบสวนโรคจึงนำตัว 3 คนที่เหลือมาค้นหาโรคกระทั่งพบว่าทั้งหมดติดเชื้อ
ส่วนผู้ป่วยอีก 2 รายที่ค้นพบเป็นเพศหญิงอายุ 64 ปี และ 54 ปี มีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง แต่ไทม์ไลน์ยังปะติดปะต่อไม่ค่อยได้ เพราะผู้ป่วยทั้งสองจำไม่ได้ว่าเดินทางไปไหนบ้าง แต่ไม่เคยออกนอกพื้นที่จังหวัดนครพนม จึงอยู่ระหว่างการสอบสวน
สำหรับคลัสเตอร์ที่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมปล่อยให้คลาดสายตาคือ คลัสเตอร์เพื่อนรักฝากเชื้อ เริ่มจากช่วงเทศกาลสงกรานต์มีเพื่อนของผู้ป่วยยืนยันผลรายที่ 61 เป็นเพศหญิงอายุ 38 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรีและสมุทรปราการ ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง ก็มีการสังสรรค์ร่วมกับญาติๆ ภายหลังเพื่อนเดินทางกลับก็เริ่มมีอาการไข้ไปพบแพทย์คลินิกเอกชนรับประทานยาอาการไม่ทุเลา ตัดสินใจเข้ารับการตรวจค้นหาเชื้อพบว่าผลเป็นบวก และเชื้อได้แพร่สู่ญาติอีก 4 คน รวมทั้งหลานวัย 6 เดือน ซึ่งไทม์ไลน์เคสเพื่อนรักฝากเชื้อนี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมากกว่า 100 คน ทำให้ทางจังหวัดนครพนมประกาศล็อกดาวน์ 2 หมู่บ้าน เพื่อเดินหน้าตรวจค้าหาเชื้อชาวบ้านประมาณ 1,200 คน จำนวน 380 หลังคาเรือน ส่วนเพื่อนที่นำเชื้อโควิดมาแพร่ตรวจพบเชื้อที่กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ ผวจ.นครพนม เตรียมหามาตรการป้องกันกลุ่มคนที่หนีจากพื้นที่เสี่ยง เช่น กทม. มารักษาที่นครพนม เพราะมีรายงานข่าวว่าเตียงสนามไม่เพียงพอ คนไข้นอนรอคิวอยู่ในบ้าน จึงต้องดิ้นรนมาต่างจังหวัด และนครพนมพบแล้ว 2 เคส คือ สาวอีสานไปทำงานที่จังหวัดปัตตานีหลังเพื่อนติดเชื้อ เกรงตนเองจะไม่มีใครเฝ้าดูแลจึงเดินทางกลับภูมิลำเนา และชายชาวจีนหลังรู้ว่าตนเองติดเชื้อโควิด จึงหอบลูกเมียกลับบ้านภรรยาที่อำเภอวังยาง แล้วตรงดิ่งไปที่ รพ.วังยาง บอกกับแพทย์ว่าครอบครัวตนเองติดเชื้อโควิด
ขณะเดียวกัน นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนมเขต 1 พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นางสาว ศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นำทีมนักธุรกิจภาคเอกชนพบกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครพนม เพื่อแสดงความจำนงที่จะช่วยเหลือในด้านต่างๆที่ทางทีมสาธารณสุขต้องการ โดย ผวจ.ฯเสนอให้ตั้งเป็นกองทุนไว้ โดยมีเอกชนถือร่วมกับราชการ ปัจจุบันนายสยาม ศิริมงคล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มีงบยับยั้งไว้ 50 ล้านบาท เพิ่งนำออกมาใช้ประมาณ 5 ล้านบาท ณ เวลานี้งบยังไม่ขาดแคลน ซึ่งครูแก้วกล่าวว่าภาคเอกชนพร้อมยินดีเติมเต็มทุกอย่างในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด และหลัง ผวจ.นครพนม ได้กล่าวขอบคุณภาคเอกชนและในช่วงหนึ่งเผยว่าอยากให้นายนิวัต เจียวิริยบุญญา เข้ารับตำแหน่งนายกเทศบาลเมืองนครพนมเร็วๆ เพราะที่ผ่านมา อสม.เขตเทศบาลฯมีความหย่อนยาน
