จากเหตุการณ์เมื่อ เวลา 15.45 น. วันที่ 2 พ.ค. 2564 ร.ต.อ.ศุภชัย กอกัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกตูม ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มทับรถไถเพื่อการเกษตรขนาดเล็ก ที่ถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.โคกตูม ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 รายจึงได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.อานันทมหิดล และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านมุงดูอยู่จำนวนหนึ่ง ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ต่อเนื่องนานนับชั่วโมง พบต้นหางนกยูงขนาดใหญ่หักโค่นลงมาทับรถไถ สีส้ม หลังคาพังยุบลงมาทับร่างของนายปรีชา เฉยสกุล อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 10 ต.โคกตูม อ.เมือง ลพบุรี เสียชีวิตคาที่นั่งคนขับ สภาพศพเลือดไหลนองพื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงได้ช่วยกันนำร่างลงมาจากรถเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพ ในเบื้องต้นพบมีบาดแผลที่ศีรษะ สภาพคอหักพับเอียงมาทางขวาจากการกระแทกของหลังคารถ
จากการสอบถาม นายสมชัย เฉยสกุล อายุ 62 ปี น้องชายผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงสายตนและผู้ตายได้ได้นำรถไถ จำนวน 2 คัน คนละคัน เพื่อออกไปหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดในไร่ ซึ่งเห็นว่าเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ในขณะที่กำลังทำงานกันอยู่ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดผ่านมาในพื้นที่ไร่ของตนเอง ซึ่งเกรงว่าจะเกิดอันตรายจากพายุ และกลัวฟ้าผ่า จึงได้ชักชวนกันกลับ โดยขับตามกันมา ผู้ตายขับตามหลังมา เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเพียงไม่ถึง 200 เมตร ฝนได้ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ประกอบกับมีพายุหมุนมาเป็นระยะ ซึ่งเป็นจังหวะที่ผู้ตายขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ต้นหางนกยูงขนาดใหญ่ไม่สามารถต้านแรงลม ได้หักโค่นลงมาทับที่หลังคารถพี่ชายพอดี ตนพยายามที่จะเข้าไปช่วย แต่พี่ชายได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเสียชีวิตคาที่ ทั้งนี้พนักงานสอบสวน ได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุ สอบสวนพยาน ได้นำร่างผู้ตายส่งพิสูจน์ ที่ รพ.อานันทมหิดลอีกครั้ง ก่อนที่จะได้มอบร่างให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ล่าสุดเวลา 09.30 น. นายธนดล รุ่งโรจน์ ปภ.จังหวัดลพบุรี นายธงชัย อิ่มอรชร กำนัน ต.โคกตูม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แขวงการทาง ทางหลวงชนบท เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโคกตูม และญาติผู้เสียชีวิต ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าที่โคนต้นหางยูงต้นที่โค่นทับรถไถ มีสภาพผุ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ไม่สามารถต้านทานแรงลมพายุได้ โดยทางกำนันธงชัย กล่าวว่ารู้สึกเสียใจที่ต้องเสียลูกบ้านไปอย่างไม่มีวันกลับ ตนเองได้ไปแสดงความเสียใจตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งขณะนี้ตนเองได้ให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องสำรวจทุกเส้นทาง ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่เสี่ยงต่อการหักโค่น จะได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศบาลตัด ลิดรอน กิ่ง หรือโค่นต้นที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง ทั้งนี้ต้องขอความเห็นชอบจากทุกฝ่าย เนื่องจากต้นไม้บางต้นอยู่ในเขตหวงห้าม ประชาชนไม่สามารถตัดโค่นเองโดยพละการได้
ทางด้านนายธนดล ปภ.จังหวัดกล่าวว่าตนเองได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้ลงพื้นที่ดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตตามหลักเกณฑ์ของผู้ประสบภัย ซึ่งในวันนี้เวลาประมาณ 14.00 น. ทาง ผวจ. กาชาดจังหวัด ฝ่ายปกครองป้องกัน และ ปภ.จะเข้ามาพบญาติผู้เสียชีวิตเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น ก่อนที่จะทำเรื่องเสนอไปทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อขอความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการในวาระผู้ประสบวาตภัยมีเหตุถึงขั้นเสียชีวิตต่อไป
